ไทยยังคงครองอันดับ 1 เป็นประเทศในฝันของนักท่องเที่ยวชาวจีน
เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันโดยเฉพาะปัญหาของสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ รวมถึงปัจจัยแวดล้อมอื่น ทั้งหมดส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวมของจีนมาก ในขณะที่จีนถือว่าเป็นประเทศที่มีกำลังซื้ออันดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งหลายประเทศต่างก็ต้องการดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนให้ได้ จึงนำไปสู่การแข่งขันที่รุนแรง โดยเฉพาะในทวีปเอเชีย และในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งกำลังให้ความสำคัญในการทำตลาดเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน
โดยในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยถือว่าเป็นเป้าหมายการท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของคนจีน แม้ว่าจะมีวิกฤตความเชื่อมั่นในด้านความปลอดภัยและกระแสเชิงลบอื่น ๆ เข้ามาไม่น้อย โดยเฉพาะในช่วงกลางและปลายปี 2561 กับปัจจัยด้านเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องถึงในปี 2562 นี้ แต่ถึงกระนั้นสื่อหลายสำนักก็พบว่า ไทยยังคงเป็นประเทศเป้าหมายอันดับต้น ๆ ของคนจีนอยู่
ดังนั้นมาลองดูกันว่า มีปัจจัยอะไรบ้างที่เกื้อหนุนให้ประเทศไทยยังคงได้รับความนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวจีนอย่างสูงครับ
ความมีเอกลักษณ์สูง คือตัวดึงดูดการท่องเที่ยว
ปัจจัยอันดับต้น ๆ ที่ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวจีน ก็คือ ความเป็นเอกลักษณ์ (Unique) ซึ่งมีข้อมูลจาก Chinainternetwatch ที่ชี้ว่า นี่คือปัจจัยที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนเข้าเมืองไทยมากที่สุดในครึ่งปี 2019
ตัวอย่างของความมีเอกลักษณ์ที่ว่า เช่น สถานที่ท่องเที่ยว อาหาร ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม การแต่งกาย หรือเรียกง่าย ๆ ว่าทุกอย่างที่สื่อออกมาถึงความเป็นไทย แล้วยังรวมถึงท้องถิ่นเฉพาะในระดับภูมิภาคและระดับจังหวัด ก็เป็นปัจจัยแรก ๆ ที่ช่วยดึงดูดคนจีนมากที่สุดเช่นกันครับ
แล้วยังมีแนวโน้มอีกว่า การท่องเที่ยวในเมืองรอง หรือเมืองที่ไม่ได้มีชื่อเสียง ก็กำลังได้รับความสนใจมากขึ้น หากมีการทำตลาดที่ดี
แล้วยังมีข้อมูลว่า การใช้จ่ายโดยรวมของนักท่องเที่ยวจีนในปี 2018 สูงถึงประมาณ 500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 13% จากปี 2017
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยรองลงมาที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ ราคาสินค้าและบริการค่อนข้างถูก หากเทียบกับประเทศอื่น ๆ
นอกจากนี้นักท่องเที่ยวจีนก็มีความชื่นชอบใน ของฝากที่มีลักษณะเฉพาะตัว หรือเป็น สินค้าท้องถิ่นต่าง ๆ ซึ่งเราจะพบว่ามีสินค้ายี่ห้อของไทยเราบางประเภทที่คนจีนชอบซื้อกลับไปนั้นเป็นสินค้าในยี่ห้อหรือประเภทที่คนไทยเราอาจจะคาดไม่ถึงอยู่พอสมควร ตัวอย่างเช่น ยาดมตราโป๊ยเซียน นมอัดเม็ดสวนจิตรลดา ยาอมตราตะขาบห้าตัว แผ่นแปะหลังตราเสือ หมอนยางพารา เป็นต้น
ส่วนกลุ่มของอาหารและผลไม้ที่ได้รับความนิยมสูง เช่น ทุเรียนหมอนทอง กล้วย มังคุด มะม่วง โดยเฉพาะทุเรียน คนจีนถือว่าเป็นราชาแห่งผลไม้ ซึ่งยังรวมถึงสินค้าที่เกี่ยวข้อง เช่น ทุเรียนอบแห้ง ทุเรียนทอด ที่ทำเป็นของฝากกลับเมืองจีนได้อีกด้วย
แต่ในส่วนนี้ก็ต้องระวังเรื่องกลุ่มของนักท่องเที่ยวที่เข้ามา เช่น ในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งถือว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ที่คนจีนนิยมในปี 2018 พบว่า สถานที่ต่าง ๆ จะมุ่งรองรับนักท่องเที่ยวที่เป็นผู้ชายวัยกลางคนค่อนข้างมากกว่า เช่น ย่านท่องเที่ยวในเขตบางลา แต่ก็มีข้อมูลที่ชี้ว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนที่เป็นผู้หญิงกำลังมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น รวมถึงมีนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มที่กำลังมาแรงคือ กลุ่มผู้สูงอายุ 60-65 ปี ซึ่งมักจะมาพร้อมกับลูกหลานที่พามาด้วยกัน ดังนั้นก็จำเป็นต้องนึกถึงสินค้าและกิจกรรมอื่น ๆ เพื่อรองรับคนจีนกลุ่มนี้ด้วยเช่นกันครับ
คนจีนซื้อของฝาก กับช่องทางออนไลน์
ในช่วงหลังได้มีการสำรวจและศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาซื้อสินค้าระหว่างไปเที่ยวในเมืองต่าง ๆ โดยทีการสำรวจผ่านแอบพลิเคชั่น “เสี่ยวหงซู” (Red book) ซึ่งเป็นหนึ่งในแอพด้านอีคอมเมิร์ซยอดนิยมของจีนที่ได้รับความนิยมสูงมากในปัจจุบัน
ซึ่งข้อมูลจากในปีที่ผ่านมา พบว่า สินค้าส่วนใหญ่ที่คนจีนนิยมซื้อในเมืองไทย สามารถแบ่งได้เป็นสามกลุ่มใหญ่คือ
· สินค้าบริโภค เช่น ผลไม้อบแห้ง ขนม
· สินค้าอุปโภค เช่น แผ่นแปะหลัง หมอนยางพารา พระเครื่อง
· สินค้า Luxury เช่น เครื่องสำอาง Skincare
สำหรับข้อมูลที่พบจากการสำรวจ พบว่าจุดน่าสนใจคือ มีการค้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับสินค้า มักเป็นกลุ่มของ เครื่องสำอาง Skincare มากที่สุด เช่น ผลกระทบ แบรนด์ การใช้งาน ผิวหน้า แนะนำ จากนั้นจึงเป็นเรื่องของ ราคา ถูก มาส์กหน้า เป็นต้น ในขณะที่เรื่องของ สี แพ็คเกจ ได้รับความสำคัญรองลงมา
ในแง่นี้ ถ้าต้องการทำตลาดออนไลน์ผ่านช่องทาง “เสี่ยวหงซู” สำหรับกลุ่ม เครื่องสำอาง Skincare ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในองทางที่มีความจำเป็นและควรต้องใช้งานอย่างยิ่งครับ
อีคอมเมิร์ซ กำลังอยู่ในชีวิตประจำวันของคนจีน
เพราะนี่คือหนึ่งในเรื่องที่กำลังอยู่ในชีวิตประจำวันของคนจีน ซึ่งในขณะที่คนไทยกำลังใช้งานช่องทางออนไลน์ เช่น Line Facebook Lazada สำหรับคนจีนเอง ก็คือกลุ่มของ WeChat, Alipay, Taobao
มีการสำรวจในปี 2018 พบว่า 90% ของประชากรจีน ใช้การชำระเงินทางออนไลน์ และนิยมใช้ผ่านทางมือถือกันมากที่สุด ซึ่งบริการของ WeChat ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานด้านนี้โดยตรงในแง่ของการเป็นแพลทฟอร์มสำหรับการส่งข้อความ ซึ่งถือว่าเป็นกระแสหลักของแพลทฟอร์มทั่วโลกในเวลานี้ด้วย
ดังนั้นช่องทางดิจิทัล จึงมีความจำเป็นอย่างมาก สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการบุกตลาดจีน หากมีข้อสงสัยหรือต้องการคำปรึกษาในเรื่องนี้ เรามีบริการของ Levelup holding ที่แนะนำสำหรับการบุกตลาดจีนด้วยช่องทางนี้ครับ
ไม่ว่าจะเป็นการใช้สื่อออนไลน์ โซเชียลมีเดีย การทำ SEO เพื่อดันอันดับบนเว็บ Baibu ไปจนถึงการใช้ Wechat Official & Wechat advertising ซึ่งเป็นบริการเปิดและบริหารแอคเคาท์ Wechat หรือ โฆษณาผ่านทาง Wechat ที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดในประเทศจีน
นอกจากนี้ยังผสมผสานกับช่องทางของ KOL ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการ ขายของออนไลน์บนแพลตฟอร์มชื่อดังของจีน พร้อมบริการแอดมิน ภายใต้แอคเคาท์ของบริษัทเลเวลอัพ โดยใช้ช่องทางที่เหมาะสมและกำลังโด่งดังในเวลานี้ เช่น Xiaohongshu “เสี่ยวหงชู” (Little Red Book) โดยจะเป็นการเขียนคอนเทนต์รีวิวผ่านแพลทฟอร์ม ด้านการรีวิวสินค้า ไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยว ความสวยความงาม ซึ่งถือว่าเป็นแพลทฟอร์มยอดนิยมของจีนในเวลานี้ด้วย
นอกจากนี้ยังมีบริการอื่น ๆ ผ่านช่องทางโซเชียลและแพลทฟอร์มยอดนิยม เช่น Dianping แพลทฟอร์มที่จะช่วยให้บริการสำหรับการปักหมุดที่ตั้งร้าน ใส่รูป ผ่านแอพพลิเคชั่น Dianping ซึ่งเป็นแอพรีวิวร้านอาหารยอดนิยม สร้าง Ranking ที่ดีขึ้นให้กับร้านค้า และ TikTok (Douyin) เป็นแพลทฟอร์มยอดนิยมสำหรับการสร้างคลิปวิดีโอโพ ที่กำลังมาแรงในจีน รวมถึง CTrip เว็บโฆษณาหรือวางขายตั๋วผ่านแพลตฟอร์มการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของจีนในเวลานี้ด้วย
ดังนั้นถ้าต้องการบุกตลาดจีน แต่ยังไม่รู้จะเริ่มอย่างไร ติดต่อกับเรา Levelup holding ได้ครับ
=========================================
#คิดถึงการตลาดจีน#คิดถึงการตลาดจีน คิดถึง Level Up Thailand#
ต้องการตรวจความพร้อมก่อนบุกตลาดจีน สามารถอ่านบทความ
“ตรวจความพร้อมก่อนไปตลาดจีน” ได้ที่
หรือ อยากทราบภาพรวมของการตลาดออนไลน์จีนสามารถอ่านบทความ
“บุกตลาดจีนด้วยการตลาดออนไลน์จีน” ได้ที่
ต้องการคำปรึกษาหรือดูบริการแพ็คเกจบริการการตลาดจีนเริ่มต้นได้ที่
ทั้งนี้ถ้าต้องการให้เราเขียนเพิ่มเติมด้านไหนสามารถ Comment มาได้เลยนะครับ
Comments