top of page

บทความ

ความรู้ ข่าวสาร ที่นักธุรกิจต้องรู้

ส่งตรงจากจีน

ยิ่งน่าเกลียดยิ่งปัง สไตล์ใหม่ที่โดนใจวัยรุ่นจีน

  • benyavyck
  • 5 มิ.ย.
  • ยาว 1 นาที

ยิ่งน่าเกลียดยิ่งปัง สไตล์ใหม่ที่โดนใจวัยรุ่นจีน


#怎么越丑的东西越火# ทำไมของที่ยิ่งน่าเกลียดยิ่งปัง กระแสที่ร้อนแรงบนเว่ยปั๋ว มีชาวเน็ตจีนเข้ามาแสดงความเห็นอย่างล้นหลาม จนยอดวิวมากกว่า 27 ล้านวิว กระแสนี้ไม่ใช่เรื่องขำๆ แต่สะท้อนถึงจิตวิทยาสังคมและกลยุทธ์การตลาดจีนได้อย่างลึกซึ้ง


Level Up ขอสรุปเทรนด์นี้ใน 3 ประเด็นหลัก พร้อมมุมมองการตลาดที่คนไทยควรรู้เพื่อปรับตัวให้ทันเทรนด์จีนครับ


1. การเยียวยาทางจิตใจ: จากความวิตกกังวลเรื่องความเนี้ยบ สู่การเยียวยาผ่านความไร้สาระ

ในยุคที่ “ความเป๊ะ” กลายเป็นเรื่องธรรมดา คนรุ่นใหม่กลับรู้สึกกดดันจนเกิดความเครียดจากการต้องดูดีอยู่ตลอดเวลา

ของ “น่าเกลียดแต่น่ารัก” (ภาษาจีนเรียกว่า 丑萌 chǒu méng) อย่าง Labubu หรือตุ๊กตาปลาในซานริโอ้ กลายเป็นเครื่องมือปลดปล่อยความรู้สึก เป็นการ “ลดมาตรฐานความงาม” เพื่อผ่อนคลายจิตใจ ทำให้สร้างความสุข สนุก ตลกขบขัน ได้ดีกว่า


นอกจากนี้ ของน่าเกลียดน่าชัง ยังถือเป็น“พลังการแทรกซึมในสังคม” (social penetrability) กลายเป็นรหัสลับที่คนรุ่นใหม่ใช้ในการแยกแยะและเชื่อมโยงกับคนที่มีรสนิยมคล้ายกัน

ที่น่าสนใจคือ การโพสต์ของของเหล่านี้บนโซเชียลมักได้รับยอดตอบรับสูงกว่าการโพสต์ภาพสินค้าหรือสิ่งของที่ “สวยงาม” ตามมาตรฐานทั่วไป


2. แผนการตลาด: กระแสที่ถูกจัดวางมาอย่างแยบยล


ความสำเร็จของสินค้าน่าเกลียดไม่ได้มาโดยบังเอิญ แต่มาจากสูตรสำเร็จที่ลงตัว: “ความน่าเกลียด 30% + ความหายาก 50% + การสุ่ม 20%”

ตัวอย่าง Pop Mart ใช้ระบบ Blind Box ในการจำหน่าย โดยตั้งอัตราการได้ Labubu รุ่นซีเครตไว้ที่ 1 ใน 144 สร้างปรากฏการณ์แบบ กล่องทดลองชองสกินเนอร์ Skinner Box Effect ที่ยิ่งได้ยากก็ยิ่งอยากได้ ทำให้ยอดขายของซีรีส์นี้ในปี 2024 พุ่งขึ้นถึง 726%


ด้วยความหายากนี้ นักเก็งกำไรจากต่างประเทศจึงสร้างเครือข่ายรีเซลล์ข้ามพรมแดน เคสตัวอย่าง Labubu เวอร์ชันพิเศษขายเฉพาะในไทย ที่ถูกรีเซลล์หน้างานทันทีในราคาสูงกว่าป้ายถึง 300% บางตัวมีราคาขายบนแพลตฟอร์มอย่าง StockX สูงกว่าราคาทางการถึง 2.4 เท่า ความหายากที่ถูกสร้างขึ้นนี้ ได้เปลี่ยนตุ๊กตาน่าเกลียดน่าชังให้กลายเป็น “ทองคำพลาสติก” ในโลกแห่งนักสะสม


3. การสร้างวัฒนธรรมใหม่: การเติบโตอย่างไร้ขีดจำกัดของความงามรูปแบบใหม่


สินค้าสุดโต่งอย่าง “กระเป๋าขยะ” “กางโปรงที่คล้ายกางเกงในชาย” ของ Balenciaga และ "หมวกกันน็อกทรงกาน้ำร้อน"จากการประกวดสินค้าน่าเกลียดบน Taobao คือการใช้ “ความน่าเกลียดแบบอุตสาหกรรม” มารื้อถอนความงามแบบวิจิต รูปแบบนี้ชาวเน็ตจีนเรียกว่า ความงามแนว “丧尸ซอมบี้” ซึ่งได้สร้างนิยามใหม่ให้กับสัญลักษณ์การบริโภค เพราะการถือกระเป๋าขาดราคา 12,000 หยวน ประมาณ 60,000บาท กลับดู “เข้าถึง เข้าใจเกม ” มากกว่าการถือกระเป๋า Hermès เสียอีก


“ความน่าเกลียดน่าชัง” ยังมองเป็นสกุลเงินทางสังคมในโซเชียล ยิ่งมีเยอะยิ่งดังยิ่งรวยความตลก ความสนุก ซึ่งได้มาจากการโพสของน่าเกลียดน่าชังหรือแม้กระทั่งมีม อีโมจิแปลกๆฮาๆ จากความน่าเกลียดน่าชัง คนมองว่าตลก จึงอยากแชร์ เมื่อคนแชร์เยอะก็เกิดเป็นไวรัล สุดท้ายกลายเป็นกระแสหลักในไม่กี่คลิก

ขนาด Taobao ได้จัดเวทีประกวดสินค้าน่าเกลียด และมียอดผู้ชมทะลุ 4.68 ล้านครั้ง นี่เป็นการยืนยันว่ากระแสนี้กำลังแทรกซึมและกลืนกินรสนิยมกระแสหลักอย่างชัดเจน


-> หากคุณกำลังทำตลาดจีน อย่าเพิ่งตัดสินสินค้าน่าเกลียดน่าชัง

ในตลาดจีน ความน่าเกลียดที่มี “เสน่ห์เฉพาะตัว” สามารถกลายเป็นสินค้ายอดนิยมได้ หากมี Story, Limited Edition หรือความหายากร่วมด้วย


หากอยากได้ยอดการมีส่วมร่วมมากขึ้น อาจใช้มีมและความตลกเป็นกลยุทธ์ไวรัล หากสินค้าคุณพอจะ “เล่นกับความแปลก” ได้ ลองสร้างคาแรกเตอร์หรือคอนเทนต์แหวกแนว เพื่อจุดกระแสความฮาในโซเชียลจีน


สุดท้ายอย่าคิดว่าแค่สวยจะขายได้ คนจีนรุ่นใหม่สนใจ ของที่ "จริงใจ" และ "ขัดกับความสมบูรณ์แบบ" มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมันทำให้รู้สึกว่าแบรนด์เข้าใจและกล้าพูดภาษาที่ตรงใจคนรุ่นใหม่มากกว่า


 
 
 

Comments


Basic Chinese Knowledge

Chinese Tourism

Kol influencer

China social media & online marketing

China ecommerce

บทความแนะนำ

บริการของเรา

bottom of page