ได้เวลากลับมาอีกครั้ง Trip.com วิเคราะห์สถิติและความเปลี่ยนแปลงด้านการท่องเที่ยว
อย่างที่รู้กันว่าสถานการณ์โรคระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้หนึ่งธุรกิจที่ต้องพังลงแบบต่อหน้าต่อตาก็คือ ธุรกิจท่องเที่ยว เมื่อการเดินทางคือสาเหตุหลักที่ทำให้เชื้อแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นการให้หยุดอยู่กับบ้าน อยู่แต่ในประเทศของตนเองจึงเป็นสิ่งที่รัฐบาลทุกประเทศเลือกทำ และนั่นจึงเป็นข้อหลีกเลี่ยงไม่ได้กับธุรกิจท่องเที่ยวแทบต้องพับเสื่อกลับบ้านกันเป็นทิวแถว
อย่างไรก็ตาม Trip.com แพลตฟอร์มการจองที่พักและจองการเดินทางได้มีการวิเคราะห์แนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคต พร้อมนำเสนอแคมเปญใหม่เพื่อช่วยฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เรื่องนี้น่าสนใจและอยากนำมาเล่าสู่กันฟัง โดยเฉพาะบรรดากลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวที่เริ่มมองเห็นฟ้าสว่างมากขึ้นกว่าเดิม
แนวโน้มของการกลับมาท่องเที่ยวอีกครั้ง
Trip.com ได้มีการสอบถามกลุ่มตัวอย่างที่ชื่นชอบท่องเที่ยว จากข้อคำถามที่ว่ามีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่คุณจะพิจารณากลับมาเดินทางท่องเที่ยวอีกครั้ง ซึ่งมีถึง 30% ที่พร้อมจะเดินทางทันทีภายในระยะเวลา 3 เดือนต่อจากนี้ อย่างไรก็ตามมีสถิติที่ระบุออกมาอีกว่า 16% พร้อมท่องเที่ยวตั้งแต่เดือนพฤษภาคม – มิถุนายน, 15.9% พร้อมท่องเที่ยวในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2020, 15.1% พร้อมท่องเที่ยวในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2020, 18.3% มองว่าพร้อมท่องเที่ยวอีกครั้งในปี 2021, ส่วนอีก 34.7% ยังไม่แน่ใจว่าอยากท่องเที่ยวอีกเมื่อไหร่
พฤติกรรมการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป
Trip.com ได้ทำการสำรวจรูปแบบท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นระหว่างสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา สิ่งที่เห็นภาพชัดเจนคือ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเลือกจองทริปแบบระยะสั้นซึ่งมีมากถึง 70% โดยเมืองที่ถูกจองมากที่สุด 20 อันดับแรกนั้น กรุงเทพฯ ติดมาเป็นลำดับที่ 1 ตามด้วย กรุงโซล, เซี่ยงไฮ้, เจจู, โตเกียว, บาหลี, มะนิลา, ปูซาน, ซีอาน, กัวลาลัมเปอร์, โอซากา, ปีนัง, ดานัง, ไทเป, สิงคโปร์, พัทยา, ฮ่องกง, ภูเก็ต และมาเก๊า ขณะที่ภาพรวมของประเทศไทยทั้งหมดเป็นลำดับที่ 2 รองจากญี่ปุ่น
ความไม่แน่นอนของสถานการณ์จึงทำให้เกิดความต้องการรูปแบบใหม่
จากสถานการณ์ที่จนถึงตอนนี้ก็ยังตอบไม่ได้ว่าการระบาดของโรคจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ ทำให้พฤติกรรมความต้องการของนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับการจองทริปต้องการความยืดหยุ่นมากขึ้น Trip.com ได้มีการแบ่งออกมาคือ 57% มองหาผู้ให้บริการที่สามารถยกเลิกได้ 27% มองหาผู้ให้บริการที่มีการเสนอขายล่วงหน้าและกฎเกณฑ์การใช้งานที่ยืดหยุ่น (เช่น ซื้อดีลตอนนี้ใช้ได้จนถึงปีหน้า) และ 25% มองหาความคุ้มครองของประกันภัยที่คุ้มค่าระหว่างทริปที่กำลังจะมาถึง
สรุปแนวคิด
สิ่งที่ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวจำเป็นต้องทำความเข้าใจก็คือ พฤติกรรมของผู้บริโภคในฐานะของนักท่องเที่ยวเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนด้วยปัจจัยแวดล้อมที่เกิดขึ้น พวกเขาต้องการความมั่นใจว่าหากเกิดเรื่องไม่คาดฝันจนทำให้ทริปที่ตนเองวางแผนเอาไว้ไม่สามารถเดินทางได้ ก็จำเป็นต้องมีผู้ให้บริการที่กล้าจะยอมรับเงื่อนไขความยืดหยุ่นของสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ เช่น มีบริการยกเลิกฟรี, มีระยะเวลาที่ยาวนานมากขึ้นในการเข้าพักหรือท่องเที่ยว ตรงนี้เองเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการทุกคนต้องเข้าใจหากพยายามอยู่รอดกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ความโชคดีอย่างหนึ่งที่ประเทศไทยได้รับโดยเฉพาะกรุงเทพคือ ความต้องการของนักท่องเที่ยวต่างชาติยังมีสูงมาก ๆ กับการเข้ามา เพราะจากรายละเอียดที่กล่าวไป กรุงเทพฯ คือเมืองอันดับ 1 ที่พวกเขาเลือกจองทริประยะสั้น ๆ ขณะที่ภาพรวมของเมืองไทยเองเป็นอันดับ 2 รองจากประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ด้วยเหตุนี้บรรดาผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวทั้งหลายอย่าพึ่งเครียดหรือกังวลใจมากเกินไป สถิติได้แสดงให้เห็นถึงความต้องการอยากกลับมาประเทศไทยสุด ๆ เพียงแค่ต้องรอโอกาสและช่วงเวลาอันเหมาะสมเพื่อให้สถานการณ์ต่าง ๆ คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีเท่านั้นเอง
ท้ายที่สุด แม้ความไม่แน่นอนของการท่องเที่ยวจะยังเป็นเรื่องคาดเดาได้ยาก แต่สิ่งหนึ่งที่สามารถบอกได้แน่ ๆ คือ แม้ช่วงเวลานี้ธุรกิจทั้งหมดในวงการท่องเที่ยวกำลังเจอวิกฤตใหญ่ แต่ถ้ามองในแง่บวกมันคือโอกาสที่ทุกคนจะได้ปรับตัว ได้เรียนรู้ความเปลี่ยนแปลงและสร้างสิ่งใหม่ ๆ ขึ้นมา โรงแรมบางแห่งเปลี่ยนมาขายอาหารหน้าร้านเพื่อเลี้ยงดูพนักงาน, ไกด์ทัวร์เปลี่ยนอาชีพมาส่งของ เพราะภายใต้วิกฤตยังมีโอกาสซ่อนอยู่ อีกทั้งยังทำให้คุณค้นพบตัวเองว่าไม่ได้เก่งแค่เรื่องเดียว แต่ยังสามารถสู้ต่อในรูปแบบอื่น ๆ ที่ไม่เคยคิดมาก่อน
ที่มา : Ctrip
=========================================
#คิดถึงการตลาดจีน#คิดถึงการตลาดจีน คิดถึง Level Up Thailand#
ต้องการตรวจความพร้อมก่อนบุกตลาดจีน สามารถอ่านบทความ “ตรวจความพร้อมก่อนไปตลาดจีน” ได้ที่ https://www.levelupthailand.com/single-post/chinamarketing-checklist-full หรือ
อยากทราบภาพรวมของการตลาดออนไลน์จีนสามารถอ่านบทความ “บุกตลาดจีนด้วยการตลาดออนไลน์จีน” ได้ที่ https://www.levelupthailand.com/single-post/การตลาดออนไลน์จีน
ต้องการคำปรึกษาหรือดูบริการแพ็คเกจบริการการตลาดจีนเริ่มต้นได้ที่ www.levelupthailand.com/sme2
ทั้งนี้ถ้าต้องการให้เราเขียนเพิ่มเติมด้านไหนสามารถ Comment มาได้เลยนะครับ
