จีนเตรียมขยายตลาดการค้าเสรี (FTZ) เพิ่มขึ้น ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจ
ตลาดจีนยังเปิดกว้าง จับตาการขยายตลาดการค้าเสรี Free Trade Zones (FTZ) ของจีนในปี ค.ศ. 2018 ตามแผนพัฒนาทางเศรษฐกิจของ นายกรัฐมนตรีจีน หลี่เค่อเฉียง
มีรายงานจากสำนักข่าว Xinhua เกี่ยวกับแผนการพัฒนาเศรษฐกิจของจีน และในปี 2018 นี้ถือว่าเป็นการครบรอบ 40 ปีของประเทศจีนสำหรับการปรับเปลี่ยนนโยบายครั้งสำคัญด้วยการเปิดเศรษฐกิจต่อโลกภายนอก หรือที่ภายหลังถูกเรียกว่า “หนึ่งรัฐ สองระบบ” โดยการทดลองนำร่องใช้ระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม แต่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในระบอบสังคมนิยม
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ประเทศจีนเริ่มขยายพื้นที่ตลาดการค้าเสรี Free Trade Zones (FTZ) ของ ผู้นำจีน ซึ่งจะมีการขยายขอบเขตของตลาดเสรีในหลายมณฑลมากขึ้น
แล้วจากงานนำแสดงสินค้า EXPO ระดับชาติ ณ เซี่ยงไฮ้ ผู้นำจีนอย่างสีจิ้นผิงก็ได้ประกาศคำมั่นที่จะยกระดับและเปิดกว้างทางการค้าของจีน โดยเฉพาะการนำเข้า และการลงทุนจากต่างชาติ รวมถึงยืนยันสิทธิในการถือครองทรัพย์สินของภาคเอกชน ว่าจะได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่
สำหรับแผนพัฒนาเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นการเปิดกว้างนี้ ได้รับการผลักดันให้เดินหน้าโดย นายหลี่เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันภายใต้รัฐบาลของสีจิ้นผิง เขาถือว่าเป็นผู้นำคนสำคัญในการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจของจีน ซึ่งสื่อต่างๆเรียกแนวทางเศรษฐกิจของเขาเรียกว่า Likonomics เป้าหมายสำคัญคือ มุ่งลดความเหลื่อมล้ำและความยากจนของคนจีนให้หมดไป และเปลี่ยนเป้าหมายเรื่องการให้ความสำคัญเกี่ยวกับ GDP ในระดับมวลรวมของประเทศ มาลดขนานแล้วให้ความสำคัญกับการปรับโครงสร้างในหลายมณฑลมากขึ้น
หรือสรุปได้ว่า เป็นการมุ่งจากศูนย์กลาง กระจายออกไปยังท้องถิ่นแทน และให้ความสำคัญต่อสภาวการณ์ที่เป็นจริงในตลาด ไม่หลงติดกับดักตัวเลขของ GDP ที่เติบโตขึ้นเพียงอย่างเดียว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาที่ตัวเลขการเติบโตสวนทางกับสภาพเป็นจริง เหมือนที่จีนเคยเจอสภาพดังกล่าวมาแล้วในสมัยของเหมาเจ๋อตง เมื่อทำนโยบายก้าวกระโดดไกล จนทำให้จีนในยุค 50-60 อยู่ในสภาวะที่ประชาชนยากจนข้นแค้นทั้งประเทศ
สำหรับผลสืบเนื่องจากการขยาย FTZ ได้แก่ การออกมาประกาศรายการปรับลดของกลุ่มสินค้าที่อยู่ในรายการข้อจำกัด/ข้อห้ามสำหรับการลงทุน (Negative List) ฉบับปี 2018 ซึ่งประกาศโดยคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีนและกระทรวงพาณิชย์จีน ซึ่งได้มีผลใช้ไปแล้วตั้งแต่เมื่อกลางปีที่ผ่านมา
สำหรับใน Negative List ฉบับดังกล่าว จะมีการปรับลดรายการข้อจำกัดและข้อห้ามสำหรับต่างชาติในการลงทุนภายในประเทศจีน จากแต่เดิมที่ 63 ข้อ ให้เหลือ 48 ข้อ และมีนโยบายลดข้อจำกัดของสาขาธุรกิจ 22 สาขา ครอบคลุมกลุ่มสินค้าด้านพลังงาน สินค้าการเกษตรโดยเฉพาะข้าวและข้าวโพด อุตสาหกรรมบางประเภท อาวุธและยุทโธปกรณ์ เป็นต้น
สำหรับการขยาย FTZ ถือว่าเป็นโอกาสครั้งสำคัญของผู้ประกอบการทั้งรายย่อยและขนาดกลาง ซึ่งฝั่งของไทยเราเองก็ต้องจับตาดูเช่นกันครับ เพราะจะนำไปสู่การเข้ามาแข่งขันจากทุนต่างชาติในจีนมากขึ้น โยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม สินค้าบริโภคและอุปโภค ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่คนจีนกำลังมีความต้องการสูงมากในเวลานี้
========================================================
#คิดถึงการตลาดจีน คิดถึง Level Up Thailand#
ต้องการตรวจความพร้อมก่อนบุกตลาดจีน สามารถอ่านบทความ
“ตรวจความพร้อมก่อนไปตลาดจีน” ได้ที่
หรือ อยากทราบภาพรวมของการตลาดออนไลน์จีนสามารถอ่านบทความ
“บุกตลาดจีนด้วยการตลาดออนไลน์จีน” ได้ที่
ต้องการคำปรึกษาหรือดูบริการแพ็คเกจบริการการตลาดจีนเริ่มต้นได้ที่
ทั้งนี้ถ้าต้องการให้เราเขียนเพิ่มเติมด้านไหนสามารถ Comment มาได้เลยนะครับ