เรียนรู้จากกรณีทุเรียน ตลาดจีนกับ Cross-border E-Commerce สั่งซื้อข้ามประเทศ
การสั่งซื้อสินค้าแบบข้ามพรมแดนหรือข้ามประเทศ ที่เรียกว่า Cross-border Trading เวลานี้กำลังได้รับความนิยมมากในประเทศจีน ซึ่งหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้รูปแบบการค้าขายนี้ได้รับความนิยมในจีนมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เนื่องมาจากการนำมารวมกับช่องทาง E-Commerce ทำให้ในเวลานี้ช่องทางการจัดจำหน่ายแบบ Cross-border E-Commerce (CBEC) กำลังเติบโตในหลายเมืองของจีนอย่างมาก
แล้วโซนที่คึกคักกับการค้าในลักษณะนี้ก็คือทางโซนตะวันออกและภาคใต้ของจีน เช่นที่เมืองกว่างโจว มณฑลกวางตุ้ง เนื่องจากเป็นประตูสำคัญสำหรับการนำเข้าและส่งออกของไทย-จีน และกับหลายประเทศในภูมิภาคอาเซียน
ทั้งนี้ มีรายงานจาก Jingdaily ระบุเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของเมืองสำคัญหลายแห่งของจีนในภาคตะวันออกเฉียงใต้ ไปจนถึงกระแสนิยมในการบริโภค จับจ่ายซื้อสินค้า ซึ่งกลุ่มที่กำลังมาแรงก็คือสินค้าที่มีลักษณะ Unique เฉพาะตัว มีเอกลักษณ์ ไม่ได้เป้นสินค้าประเภทที่หาทดแทนได้จากห้างร้านทั่วไป หรือเรียกง่ายๆว่าเป็นสินค้าที่ขายเฉพาะท้องถิ่นหรือหาซื้อได้ยาก ซึ่งคนจีนกำลังนิยมหาสินค้ากลุ่มนี้มาตอบสนองความต้องการของตัวเองมากขึ้น โดยเฉพาะการเข้าไปหาข้อมูลทาง Internet และส่องหาจากเว็บไซต์ Tmall ซึ่งจะนำสินค้าเหล่านี้เข้ามาจากต่างประเทศ
ในกรณีของไทย มีตัวอย่างให้เห็นมาแล้วจากการที่ Alibaba สามารถขายทุเรียนผ่านทาง Tmall ได้ถึง 80,000 ลูกภายในเวลา 1 นาที ทั้งนี้เพราะคนจีนมีความนิยมในแบรนด์ทุเรียนหมอนทองของไทยอยู่แล้วนั่นเอง
สำหรับสินค้าของไทยอื่นๆที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ก็เช่น ข้าวหอมมะลิ ผลไม้บางชนิด ยางพารา ขนมขบเคี้ยว ผลไม้อบแห้ง เครื่องสำอาง เนื้อสัตว์แปรรูป เป็นต้น
แต่สินค้าที่มีลักษณะทดแทนได้นั้น ก็จำเป็นต้องระวังในการส่งออกไปจีนด้วย เพราะสามารถที่จะมีการลอกเลียนแบบได้ แม้ว่าเวลานี้ไทย-จีนจะจับมือทำความตกลงทางการค้าร่วมกันแล้วก็ตาม แต่ก็ควรต้องป้องกันให้ดีเช่นกันครับ ไม่ว่าจะเป็นการจะทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา หรือช่วยกันสอดส่องสินค้าที่มีการลอกเลียนแบบ ซึ่งทางการจีนเวลานี้เองก็เริ่มให้ความสำคัญมากขึ้นด้วย
แล้วยังมีรายงานเพิ่มเติมว่า Cross-border E-Commerce ในจีนมีมูลค่าจากปี 2017 โดยรวมสูงกว่า 9 หมื่นล้านหยวน โดยคิดเป็นอัตราเติบโตร้อยละ 80.6 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ ส่วนในปลายปี 2018 นี้ก็คาดว่าภาพรวมของ CBEC ทั้งประเทศจีนในจะขยายตัวไปมากกว่า 9 ล้านล้านหยวน
สำหรับเมืองสำคัญที่กำลังมาแรงกับการค้าลักษณะนี้ ได้แก่ นครเซี่ยงไฮ้ กว่างโจว เฉิงตู เซินเจิ้น เทียนจิน ฉงชิ่ง หางโจว เหอเฝย เจิ้งโจว ต้าเหลียน หนิงโป ชิงต่าว และซูโจว สาเหตุข้อหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนก็เนื่องจากภาครัฐจีนได้ส่งเสริมในเรื่องระบบ Logistics ที่ทำให้การขนส่งสินค้ามีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง
นี่จึงเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการไทยทุกท่านควรศึกษาและไม่ควรตกขบวน หากจะบุกตลาดจีนครับ แต่ก็ต้องระวังในเรื่องของการละเมิดลิขสิทธิและความเสี่ยงในการลงทุนสำหรับสินค้าประเภททดแทนได้เช่นกัน
#คิดถึงการตลาดจีน คิดถึง Level Up Thailand#
ต้องการตรวจความพร้อมก่อนบุกตลาดจีน สามารถอ่านบทความ “ตรวจความพร้อมก่อนไปตลาดจีน” ได้ที่
หรือ อยากทราบภาพรวมของการตลาดออนไลน์จีนสามารถอ่านบทความ
“บุกตลาดจีนด้วยการตลาดออนไลน์จีน” ได้ที่
ต้องการคำปรึกษาหรือดูบริการแพ็คเกจบริการการตลาดจีนเริ่มต้นได้ที่
ทั้งนี้ถ้าต้องการให้เราเขียนเพิ่มเติมด้านไหนสามารถ Comment มาได้เลยนะครับ
