เมื่อจีนกำลังจะเขย่าตลาดน้ำมันโลก
ประเทศจีนเวลานี้กำลังกลายเป็นประเทศที่เข้ามาเขย่าตลาดน้ำมันโลก โดยเฉพาะในสถานะของผู้นำเข้าน้ำมันดิบที่เพิ่มมากขึ้น จนกระทั่งแซงหน้าสหรัฐอเมริกาได้ในปี 2017 ที่ผ่านมา ซึ่งทิศทางนี้ยังเริ่มขึ้นอย่างจริงจังมาตั้งแต่ปี 2010
แต่ไม่ใช่แค่การนำเข้าน้ำมันดิบเท่านั้น เวลานี้จีนต้องการลดระดับการใช้น้ำมันในบางอุตสาหกรรมเช่น รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็นโปรเจคใหญ่ที่กำลังพัฒนาอยู่เพื่อใช้งานจริงในอนาคต แต่สำหรับในระดับครัวเรือนแล้ว จีนยังคงมีความต้องการน้ำมันดิบในระดับสูงมากขึ้น ซึ่งก็ทำให้จีนได้หันไปทำความตกลงและร่วมมือกับประเทศผู้ค้าน้ำมันในตะวันออกกลางอื่นๆด้วย อาทิเช่น การทำความตกลงร่วมมือกับซาอุดิอาระเบีย ในฐานะผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก ให้เข้ามาร่วมลงทุนในประเทศจีนมากขึ้น ขณะที่จีนก็ลดการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านลดลง
สำหรับผลผลิตน้ำมันดิบจากบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่ของจีน รวมอยู่ที่ 15.96 ล้านตัน ทั้งนี้มีข้อมูลจากกรมศุลกากรใหญ่ได้ระบุว่า ในเดือนมีนาคม 2018 ที่ผ่านมา ยอดนำเข้าน้ำมันดิบของจีนอยู่ที่ 39.17 ล้านตัน นอกจากนี้ โรงกลั่นน้ำมันยังได้กลั่นน้ำมันเป็นปริมาณรวมแล้วมากกว่า 51 ล้านตันในเดือนมีนาคม ซึ่งได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 8.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ในขณะเดียวกัน ผลผลิตก๊าซธรรมชาติของจีนในเดือนมีนาคมยังเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 0.4 เมื่อเทียบเป็นรายปี ก็พุ่งขึ้นสูงกว่า 1.35 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร
สำหรับการนำเข้าก๊าซธรรมชาติ ได้เพิ่มปริมาณขึ้นมากกว่าร้อยละ 38 เมื่อเทียบเป็นรายปี อยู่ที่ 8.23 พันล้านลูกบาศก์เมตร
ทั้งนี้ สำนักข่าว Xinhua ยังรายงานเพิ่มเติมว่า จีนตั้งเป้าใหญ่ที่จะเพิ่มผลผลิตน้ำมันดิบให้ได้ต่อปีละ 200 ล้านตันภายในปี 2020 โดยตั้งเป้าสำหรับผลผลิตก๊าซธรรมชาติไว้ที่ 3.60 แสนล้านลูกบาศก์เมตร
#คิดถึงการตลาดจีน คิดถึง Level Up Thailand#
ต้องการตรวจความพร้อมก่อนบุกตลาดจีน สามารถอ่านบทความ “ตรวจความพร้อมก่อนไปตลาดจีน” ได้ที่
หรือ อยากทราบภาพรวมของการตลาดออนไลน์จีนสามารถอ่านบทความ
“บุกตลาดจีนด้วยการตลาดออนไลน์จีน” ได้ที่
ต้องการคำปรึกษาหรือดูบริการแพ็คเกจบริการการตลาดจีนเริ่มต้นได้ที่
ทั้งนี้ถ้าต้องการให้เราเขียนเพิ่มเติมด้านไหนสามารถ Comment มาได้เลยนะครับ
