ไทยไม่ได้เสียสิทธิ์ชื่อทุเรียนหมอนทอง แต่จีนจดในชื่อ “จินเจิ่นโถว” ในภาษาจีน
เรียกว่าเป็นข่าวฮือฮากันมากทางโซเชียลอยู่ระยะหนึ่งเมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2561 ที่ผ่านมา เมื่อมีรายงานว่า ผู้ประกอบการของจีนได้มีการนำคำที่หมายถึงชื่อ “หมอนทอง” แต่เป็นในภาษาจีนซึ่งเขียนว่า 金枕 头 “จินเจิ่นโถว” ไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในประเทศจีน
นั่นเท่ากับว่าทำให้ทางจีนได้ถือครองสิทธิคำว่า 金枕 头 “จินเจิ่นโถว” ซึ่งมีความหมายตรงกับคำว่า “หมอนทอง”
ปรากฏว่าเรื่องนี้ได้ส่งผลให้หลายฝ่ายมีความกังวลว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทยและการส่งออก เพราะอาจทำให้เกิดความสับสนหรือติดปัญหาเรื่องชื่อลิขสิทธิ์ก็เป็นได้
ทางกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ก็ไม่ได้รอช้า ได้มีการเร่งติดต่อประสานไปยังสำนักเครื่องหมายการค้าแห่งสาธารณรัฐ ประชาชนจีน (CTMO) เพื่อตรวจสอบข้อมูลด้านกฎหมาย และร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหานี้ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการค้าของไทย เนื่องจากชื่อ “หมอนทอง” เป็นชื่อเรียกพันธุ์ทุเรียนที่ขึ้นชื่อและมีชื่อเสียงของไทยมายาวนานจนทำให้ทุเรียนได้ชื่อว่าเป็นราชาแห่งผลไม้ ซึ่งได้รับความนิยมในหลายประเทศของเอเชีย โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศทางเอเชียตะวันออกที่มีชาวจีนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
ด้านนายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ได้เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีข่าวเกี่ยวกับผู้ประกอบการในจีนได้นำคำว่า ‘หมอนทอง’ หรือในภาษาจีนคือ “จินเจิ่นโถว” (Jīn zhěntou) ไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า เรื่องนี้ส่งผลทำให้ผู้ประกอบการไทยต้องระมัดระวัง หากใช้คําว่า 金枕头 “จินเจิ่นโถว” สำหรับเป็นส่วนหนึ่งของชื่อแบรนด์ หรือชื่อที่จะปรากฏอยู่บนบรรจุภัณฑ์ของสินค้าที่จะส่งออกไปยังประเทศจีน เพราะอาจทำให้เกิดการฟ้องร้องเอาได้นั้น ผลปรากฎว่าจากการตรวจสอบของกรมทรัพย์สินทางปัญญาในเบื้องต้น พบว่ามีผู้ประกอบการของจีนหลายรายได้นำคำว่า “จินเจิ่นโท” หรือแปลเป็นภาษาไทยว่า “หมอนทอง” ทั้งในภาษาจีนและภาษาอังกฤษไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในรายการสินค้าหลายประเภท โดยเฉพาะรายการสินค้ากลุ่มผลไม้อบแห้งและทุเรียนอบแห้ง ตัวอย่างเช่น ผู้ประกอบการจีนบางรายอย่างบริษัท Xinguowei Business Service และยังมีผู้ประกอบการจีนรายอื่นๆอีก เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าทางกรมทรัพย์สินทางปัญญาก็ได้เร่งสอบถามไป ยังสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงปักกิ่ง แล้วได้พบคำตอบว่า
"ยังไม่มีการพบข้อร้องเรียนจากผู้ประกอบการไทยในการนำเข้าสินค้าไทยที่ใช้ชื่อคำว่า “หมอนทอง” ที่เป็นภาษาไทยปรากฏในประเทศจีนเลย"
ทั้งนี้ นายทศพลยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “เพื่อเป็นการลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต ในกรณีที่มีการละเมิดเครื่องหมายการค้าของจีน เช่น ผู้ประกอบการไทยที่จะส่งออกสินค้าไทยในรายการสินค้ากลุ่มอาหาร ผลไม้ ขนมขบเคี้ยว ทุเรียนอบแห้ง สินค้าทางการเกษตร ที่อาจจะมีคำว่า 金枕头 ที่แปลว่า หมอนทอง เพื่อให้เป็นชื่อที่จะแสดงอยู่บนบรรจุภัณฑ์นั้น ทางกรมทรัพย์สินทางปัญญาจึงได้มีหนังสือไปถึงสำนักงานเครื่องหมายการค้าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (CTMO) ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2561 เพื่อแสดงถึงความกังวลในการรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าครั้งนี้ และอธิบายให้ทราบกันทั่วไปว่า ชื่อหมอนทอง เป็นชื่อเรียกทุเรียนพันธุ์ไทยที่มีชื่อเสียงมานานแล้วแพร่หลายไปทั่วโลก จึงไม่อาจที่จะจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้าในจีนได้
ในหนังสือฉบับดังกล่าวนี้ ยังได้ขอความร่วมมือไปยัง CTMO เพื่อให้ข้อมูลด้านกฎหมายเครื่องหมายการค้าของจีน เพื่อที่จะให้ทั้งสองประเทศได้หาหนทางแก้ไขปัญหาและหลีกเลี่ยงที่จะเกิดการฟ้องร้องหรือไม่ให้บุคคลใดถือครองสิทธิในชื่อหรือคำว่า “หมอนทอง” ให้เป็นเครื่องหมายการค้าต่อไป
นอกจากนี้ ทางกรมทรัพย์สินทางปัญญา ยังได้เร่งประสานงานกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและกับสำนักพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงปักกิ่ง เพื่อขอข้อมูลทางการค้าของผู้ประกอบการไทยที่ส่งออก สินค้าในรายการสินค้าทุเรียนหมอนทองไปยังจีน เพื่อสร้างความรับรู้ที่ถูกต้องและร่วมกันแสวงหาแนวทางใน การลดผลกระทบด้านการส่งออกต่อไป
ดังนั้นสำหรับผู้ประกอบการไทยเอง ก็ยังสามารถใช้ชื่อคำว่า “หมอนทอง” ที่เป็นภาษาไทย สำหรับการส่งออกไปประเทศจีนได้ แต่ขณะเดียวกันแต่ละฝ่ายก็ควรช่วยกันสอดส่องและตรวจสอบว่า ที่จีนได้มีบริษัทหรือสินค้าของจีนประเภทใดใช้คำว่าหมอนทองในภาษาไทยปรากฏอยู่บนเครื่องหมายการค้าหรือการโฆษณาหรือไม่ ทุกฝ่ายควรช่วยกันตรวจสอบและสอดส่อง แล้วรีบแจ้งให้ทางหน่วยงานของไทยหรือกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้รับทราบโดยด่วน เพื่อที่หน่วยงานจะได้เร่งดำเนินการและประสานกับทางจีนต่อไปครับ
#คิดถึงการตลาดจีน คิดถึง Level Up Thailand#