top of page

บทความ

ความรู้ ข่าวสาร ที่นักธุรกิจต้องรู้

ส่งตรงจากจีน

จีนประกาศใช้ Social Credits ให้คะแนนทางสังคม แก้ปัญหาพฤติกรรมคนจีน



เป็นข่าวฮือฮากันทั่วโลก เมื่อสีจิ้นผิง ผู้นำจีนได้ให้ออกแถลงการณ์โดยเว็บไซต์หน่วยงานคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน เพื่อประกาศบังคับใช้แนวนโยบาย Social Credits เพื่อเป็นการให้คะแนนทางสังคมกับคนจีน

ระบบนี้จะเป็นการควบคุมพฤติกรรมและการแสดงออกของคนจีนในที่สาธารณะโดยเป็นการเก็บคะแนนในระดับชีวิตประจำวัน เพื่อเป็นการแก้ปัญหามารยาททางสังคมของคนจีนในยุคนี้ที่ถูกทั่วโลกวิจารณ์กันมาก อาทิ การขากเสลดและน้ำลายในที่สาธารณะ การทำผิดกฎหรือข้อห้ามของสถานที่นั้นๆ การแซงคิวซื้อสินค้า การต่อราคา การสูบบุหรี่หรือส่งเสียงดังในที่ห้าม ไปจนถึงการอุจจาระหรือปัสสาวะเรี่ยราด ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ขึ้นชื่อสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งการเข้ามาควบคุมพฤติกรรมเหล่านี้ของรัฐบาลจีนถือว่าเป็นมาตรการที่ค่อนข้างสุดโต่งมากเรื่องหนึ่ง แต่ก็เป็นความพยายามที่จะแก้ไขภาพลักษณ์ของชาวจีนในระดับนานาชาติ

สำหรับในระยะยาว ทางการจีนได้แก้ปัญหาโดยการเพิ่มหลักสูตรด้านวัฒนธรรมสำหรับการศึกษาในภาคบังคับ เนื่องจากลัทธืหยูหรือขงจื่อ ได้ถูกทำลายในประเทศจีนมาตั้งแต่สมัยปฏิวัติวัฒนธรรม ทำให้คนจีนที่เติบโตมาหลังจากนั้นจะมีปัญหาในเรื่องพฤติกรรมทางสังคมเหล่านี้มาก ซึ่งในทางกลับกันจะเป็นตรงกันข้ามกับชาวจีนโพ้นทะเลที่ออกไปตั้งรกรากในประเทศต่างๆก่อนหน้านั้น เนื่องจากชาวจีนกลุ่มนี้ยังรับเอาแนวคิดขงจื่อเข้ามาด้วย เช่นที่ ไต้หวัน สิงคโปร์ หรือกระทั่งไทย เป็นต้น

ทั้งนี้ แล้วเจ้าระบบ Social Credits จะมีการทำงานเพื่อจัดระเบียบสังคมให้คนจีนอย่างไร ซึ่งที่จริงระบบนี้เริ่มมีการนำร่องมาใช้ตั้งแต่ปี 2558 แต่ก็ยังครอบคลุมแค่ในเรื่องบางอย่างเช่นการเสียภาษีหรือประกันสังคม ก่อนที่จะขยายขอบเขตมากขึ้นในปีต่อๆไปนี้


ก่อนอื่น เจ้าระบบนี้จะเป็นตัวช่วยประเมินและตัดสินความน่าเชื่อถือในด้านต่างๆของประชาชนจีนโดยอยู่ในรูปแบบของการให้คะแนน โดยผู้ให้คะแนนก็คือรัฐบาลจีน ซึ่งจะแบ่งระดับคะแนนความน่าเชื่อถือของประชากรเป็น 350-950 คะแนน สำหรับเกณฑ์ให้คะแนนนั้น จะประเมินจากพฤติกรรมและกิจกรรมต่างๆที่อยู่ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น การจับจ่ายซื้อของ การปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น การเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ซึ่งหากใครได้คะแนนน้อยกว่าเกณฑ์ ก็จะได้รับบทลงโทษ ซึ่งในอนาคตอาจจะมีการเพิ่มบทลงโทษใหม่ๆเข้ามาได้ด้วย แล้วแต่สถานการณ์หรือปัญหาสังคมในเวลานั้น

หนึ่งในตัวอย่างคลาสสิกที่พบกันบ่อย จนเรียกได้ว่า ที่อื่นไม่มี แต่มีที่พี่จีน เช่น นักท่องเที่ยวชาวจีนที่เปิดประตูฉุกเฉินบนเครื่องบินเพื่อรับลม หรือล่าสุดก่อพฤติกรรมวุ่นวายจนขึ้นบินไม่ได้ ไปจนถึงการเข้าส้วมในสถานที่ต่างๆแล้วทิ้งผลงานศิลปะอันสุดจะบรรยายเอาไว้ เป็นต้น

ซึ่งเมื่อมีระบบนี้เข้ามา ผู้ที่ทำพฤติกรรมเหล่านี้ก็จะถูกตัดคะแนนทันที โดยในเวลานี้เชื่อกันว่ามีชาวจีนหลายล้านคนแล้วที่ถูกลงโทษด้วยการระงับห้ามซื้อตั๋วเครื่องบิน และถูกห้ามซื้อตั๋วรถไฟชั้นธุรกิจ เพราะคะแนนที่ได้อยู่ในเกณฑ์แย่นั่นเอง


เป็นที่คาดการณ์ว่าระบบนี้จะใช้งานทั่วประเทศได้เต็มรูปแบบในปี 2020 ซึ่งก็จะครอบคลุมการตัดสินความน่าเชื่อถือด้านต่างๆที่เป็นเรื่องพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับสังคมมากยิ่งขึ้น

เรื่องที่น่าสนใจคือ ระบบนี้เริ่มใช้งานมาได้ระยะหนึ่ง แต่กลับไม่ค่อยมีข่าวการแอนตี้จากชาวจีน ส่วนหนึ่งอาจเพราะว่าหากคนที่ทำคะแนนในระบบได้สูง ก็จะได้รับโอกาสดีๆเพิ่มเติม เช่นการขอสินเชื่อ หรือส่วนลดการซื้อสินค้าออนไลน์ โอกาสในการจ้างงาน ไปจนการขอวีซ่าสำหรับเดินทางไปยุโรป เป็นต้น แต่ก็มีบางส่วนที่ถูกวิจารณ์อยู่บ้างว่า เป็นการเข้ามาแทรกแซงชีวิตประจำวันและเสรีภาพของคนจีนมากเกินไป ทั้งนี้คงต้องรอดูว่าเมื่อระบบใช้งานจริงเต็มที่แล้ว จะส่งผลในทางบวกหรือลบกับสังคมจีน

#คิดถึงการตลาดจีน คิดถึง Level Up Thailand#


Basic Chinese Knowledge

Chinese Tourism

Kol influencer

China social media & online marketing

China ecommerce

บทความแนะนำ

บริการของเรา

bottom of page