จีนจะขยายช่วงเกษียณอายุเป็น 65 ปี รองรับสังคมผู้สูงอายุ
นี่เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญที่จีนเตรียมการและจะบังคับใช้เพื่อรองรับต่อสภาพสังคมผู้สูงอายุในจีน และกำลังเป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นทั่วโลก หลังจากจำนวนเด็กเกิดใหม่ในภาพรวมลดลงหลายประเทศ ซึ่งในจีนเองก็มีรายงานว่า จำนวนเด็กเกิดใหม่ลดลงถึง 2 ล้านคน ในปี 2018 ที่ผ่านมา และคาดว่าอาจจะลดลงต่อเนื่องอีกในปีถัดไป ทำไมต้องขยายการเกษียณอายุ ที่จริงแล้ว แผนการนี้ถูกประกาศเป็นทางการออกมาเมื่อต้นปี 2018 ที่ผ่านมา หลังจากบทสรุปในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน โดยนายทางเทา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และประกันสังคมจีน (Ministry of Human Resources and Social Security) ได้ยืนยันว่าว่า จีนวางแผนจะขยายอายุเกษียณขึ้นเป็น 65 ปี โดยการขยายก็จะทำให้สำเร็จภายในปี 2045 ในเวลานี้ ประเทศจีนกำลังมีจำนวนแรงงานของประชากรวัยหนุ่มสาวลดน้อยลง เด็กเกิดใหม่ลดลง ในขณะที่จำนวนผู้สูงอายุมากขึ้น ทำให้ลักษณะของสังคมเริ่มจะกลายเป็นแบบปิระมิดมุมกลับ ซึ่งคนในวัยเกษียณมีอัตราเพิ่มขึ้นทุกปี หากอ้างอิงข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน จะพบว่าตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา ประชากรช่วงอายุ 15-64 ปี มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ในทางกลับกันประชากรอายุ 65 ปี ขึ้นไปมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งประชากรยังมีอายุยืนยาวมากขึ้นจากการแพทย์ที่ก้าวหน้าไปด้วย ที่จริงแล้ว จีนไม่ใช่ชาติแรกที่เริ่มแผนการนี้ เพราะก่อนหน้านี้ก็มีรายงานว่าบางประเทศในยุโรปเช่นฝรั่งเศส ก็ได้มีการขยายช่วงการเกษียณอายุออกเป็น 62 ปีแล้วเช่นกัน และก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นต่อได้ในอนาคต รูปแบบการขยายอายุ มาตรฐานหรือเกณฑ์การเกษียณอายุเดิมของคนจีน จะมีรูปแบบคือแบ่งเป็น เพศหญิงและชายที่แตกต่างกัน ได้แก่ · เพศหญิงผู้ใช้แรงงาน (blue-collar) อายุ 50 ปี · เพศหญิงพนักงานประจำ (white-collar) อายุ 55 ปี · เพศชายผู้ใช้แรงงาน (blue-collar) อายุ 60 ปี · เพศชายพนักงานประจำ (white-collar) อายุ 60 ปี แต่หลังจากปี 2018 ปีที่ผ่านมา ด้วยข้อมูลที่พบว่าจำนวนเด็กเกิดใหม่ลดลงมากกว่าที่คาดไว้ ทางรัฐบาลจีนจึงวางแผนที่จะเพิ่มการขยายอายุเกษียณของกลุ่มบุคคลทั้งสองประเภทนี้ออกไปเรื่อย ๆ ให้พร้อมกันทั้งสองเพศ โดยลักษณะการขยายคือ เพศหญิงจะให้เพิ่มทุก 3 ปี และเพศชายจะให้เพิ่มทุก 6 ปี ทั้งนี้ หากสามารถดำเนินการตามแผนนี้ต่อไป จะเท่ากับว่าภายในปี 2045 หรืออีกประมาณ 27 ปีข้างหน้านี้ ทุกฝ่ายจะเกษียณอายุในวัย 65 ปีเท่ากันพอดี โครงสร้างการทำงานอาจส่งผลกระทบ ในจีนเอง การใช้แผนการนี้ก็มีเรื่องที่สร้างความกังวลให้หลายฝ่าย โดยเฉพาะการส่งผลกระทบต่อโครงสร้างการทำงานในองค์กรต่าง ๆ อาทิ อาจส่งผลต่อการปิดกั้นโอกาสของเด็กรุ่นใหม่ อาจส่งผลกระทบต่อปัญหาการว่างงานของวัยรุ่นและเด็กจบใหม่จำนวนมาก อาจส่งผลต่อการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงของบุคลากรในด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี ซึ่งก็มีตัวเลขที่บ่งชี้ว่า กว่าร้อยละ 0.3 ของตำแหน่งงานที่เกิดขึ้นใหม่แต่ละปีในจีนนั้น มาจากกลุ่มผู้เกษียณอายุเป็นหลัก แต่บางตำแหน่งงานอาจจะไม่เหมาะสมกับพนักงานอาวุโส เพราะเป็นตำแหน่งงานที่จำเป็นต้องอัพเดทข้อมูล นวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งคนอายุมากอาจจะตามไม่ทัน รวมถึงกระแสในการบริโภคของคนรุ่นใหม่ ที่หากเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสอาจจะไม่สามารถเข้าถึงได้ดีพอ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของขีดความสามารถในการทำงานหนักที่จะด้อยลงไปด้วย นอกจากนี้ยังมีความกังวลสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุในวัยเกษียณเองว่า เมื่อถึงระยะเวลาที่ผู้สูงอายุเกิน 60 ปี จะได้มีโอกาสใช้ค่าประกันชราภาพก็จะลดลงไป โดยสรุปแล้ว ทางการจีนเองก็ให้การยืดหยุ่นด้วย โดยให้แต่ละองค์กรสามารถพิจารณาตามความเหมาะสมได้เอง หากมีความเห็นว่าบุคลากรมีสภาพร่างกายที่ไม่เอื้อต่อการทำงาน หรือจะส่งผลกระทบด้านลบต่อองค์กรและหน่วยงานนั้นมากกว่า ก็สามารถพิจารณาให้เกษียณได้เป็นกรณีไปเช่นกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องติดตามต่อไป เพราะในประเทศไทยเองก็มีแนวโน้มที่จะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเหมือนจีนและหลายประเทศทั่วโลกที่กำลังเผชิญกับสถานการณ์นี้เช่นกัน ================================== #คิดถึงการตลาดจีน คิดถึง Level Up Thailand# ต้องการตรวจความพร้อมก่อนบุกตลาดจีน สามารถอ่านบทความ “ตรวจความพร้อมก่อนไปตลาดจีน” ได้ที่ https://www.levelupthailand.com/single-post/chinamarketing-checklist-full หรือ อยากทราบภาพรวมของการตลาดออนไลน์จีนสามารถอ่านบทความ “บุกตลาดจีนด้วยการตลาดออนไลน์จีน” ได้ที่ https://www.levelupthailand.com/single-post/การตลาดออนไลน์จีน ต้องการคำปรึกษาหรือดูบริการแพ็คเกจบริการการตลาดจีนเริ่มต้นได้ที่ www.levelupthailand.com/sme2 ทั้งนี้ถ้าต้องการให้เราเขียนเพิ่มเติมด้านไหนสามารถ Comment มาได้เลยนะครับ