คำนำ
พวกเราทุกคนคงทราบกันอยู่แล้วว่าประเทศจีนคือประเทศมหาอำนาจแห่งใหม่ที่เกิดขึ้นในโลก ซึ่งมีการเติบโตอย่างเป็นที่น่าจับตามอง ประเทศจีนถือว่าเป็นม้ามืดที่สร้างตัวเองขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
สามารถแซงหน้าอเมริกาไปแล้ว ซึ่งปัจจุบันได้ตัวเลขที่น่าสนใจคือ ตอนนี้อเมริกาเป็นหนีประเทศจีนอยู่ 1.241 ล้านล้านดอลล่าร์ หรือเท่ากับประมาณ 3 เท่าของจีดีพี (ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ) ของไทยเสียอีก
เนื่องด้วยวิกฤติในอเมริกาในปี 2551 และ ยุโรปในปี 2552 ทำให้จีนนั้นสามารถพลิกตัวเองขึ้นมายืนด้วยลำแข่งตัวเองและเป็นที่โดดเด่นของโลกเศรษฐกิจได้
การขึ้นมาของอำนาจประเทศจีนทำให้ผู้ประกอบการไทยไม่สามารถเมินเฉยได้ ประเทศจีนนั้นใหญ่มาก และมีประชากรมากถึง 1,357 ล้านคน คนซึ่งมากกว่าประเทศไทย 20 เท่าตัว ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายอยากจะจับโอกาสทางธุรกิจนี้
มีหลายคนเห็นโอกาส แต่น้อยคนที่จะสามารถบุกตลาดจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่ดูง่ายๆเลยคือมีสินค้าไทยหลายอย่างที่เป็นคนจีนนิยม คนจีนชอบสินค้าไทยมากโดยเฉพาะสินค้าเกี่ยวกับการนวดและสปา งานหัตถกรรมต่างๆ รวมถึงเครื่องสำอาง และขนมขบเคี้ยว แต่มีผู้ประกอบการไทยน้อยรายมากที่สามารถวางขายและเป็นที่รู้จักในประเทศจีน
แปลว่าจีนเป็นตลาดที่น่าสนใจ แต่เจาะตลาดเข้าไปยากมากเพราะตลาดจีนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ประเทศจีนสมัยก่อนเป็นประเทศปิดที่ไม่เปิดรับวัฒนธรรมและธุรกิจภายนอกมากนัก รวมถึงการปลูกฝังความคิดของการรักชาติให้แก่ประชาชน ทำให้ผู้ประกอบการจีนไม่หวังพึ่งสินค้านำเข้าจากต่างประเทศโดยบางที่ก็สร้างสินค้าและธุรกิจในรูปแบบคล้ายคลึงกับของต่างประเทศเพื่อมาใช้ทดแทน ด้วยเหตุนี้เองทำให้คนต่างชาติส่วนใหญ่มองคนจีนว่าเป็นสุดยอดฝีมือของการก๊อปปี้เลียนแบบ ยกตัวอย่างง่ายง่ายเช่นโทรศัพท์มือถือ Samsung และ iPhone ซึ่งทางบริษัทจีนได้สร้างโทรศัพท์ที่มีความคล้ายคลึงกับสองบริษัทนี้แต่ราคาถูกกว่าครึ่งต่อครึ่งซึ่งเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก หรือแม้กระทั่งยี่ห้อรถแปลกๆในจีนมากมายที่ประเทศอื่นไม่เคยเห็น เนื่องด้วยความสามารถในการผลิตสินค้าราคาถูกและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งความรักชาติสามัคคีของจีนหมู่มาก ทำให้คนจีนส่วนใหญ่สนับสนุนสินค้าและบริการของบริษัทยักใหญ่ของจีนก่อนที่จะใช้ผลิตภัณฑ์และสินค้าของบริษัทต่างชาติ
ในด้านของโซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆประเทศจีนก็เหมือนกัน ประเทศจีนมีการสร้างช่องทางของตัวเองขึ้นมาเช่น Weibo (เวย์ปั๋ว) ที่มาแทน Facebook และ Twitter, WeChat (วีแชท)ที่ มาแทน Whatsapp กับ LINE และ Baidu (ไป่ตู้) ที่มาแทน Google เพราะเหตุนี้เองจึงทำให้บริษัทต่างชาติหลายรายที่พยามเข้าในประเทศจีนนั้นประสบปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการไม่ได้รับความสนับสนุนจากทางรัฐบาล และคู่ค้าจีน จนไปถึงการเข้าไม่ถึงของช่องทางการตลาดต่างๆที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของจีน
จริงอยู่ที่มีหลายบริษัทที่ล้มเหลว แต่ในขณะเดียวกันก็มีอีกหลายบริษัทที่ประสบความสำเร็จในการบุกตลาดจีน อาทิเช่นเถ้าแก่น้อยที่ตอนนี้มีวางขายอยู่ตามเซเว่นและซุปเปอร์มาร์เก็ตต่างๆในประเทศจีน น้ำผลไม้มาลีที่มีความรู้จากทั่วไปในประเทศ หรือสเนลไวท์ที่ประสบความสำเร็จจนกระทั่งมีคนผลิตของปลอมขึ้นมา จนถึงเครื่องสำอางมิสทีนที่นักท่องเที่ยวจีนมากวาดซื้อเกลี้ยงไปหมดจนผลิตไม่ทัน ดังนั้นมันจะต้องมีเคล็ดลับบางอย่างที่บริษัทเหลานี้ที่ประสบความสำเร็จ ทำได้ถูกต้องจึงสามารถบุกตลาดจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความตั้งใจของผมในการเขียนหนังสือเล่มนี้คือ อยากให้ผู้ประกอบการเข้าใจตรงแก่นแท้ของผู้บริโภคจีน เข้าใจช่องทางต่างๆที่สามารถโปรโมทสินค้าและบริการของไทยให้เข้าสู่ตลาดจีนอย่างมีประสิทธิภาพ และอีกทั้งยังสามารถต่อยอดธุรกิจ เพิ่มพันธมิตร และร่วมมือไปกับจีนเพื่อการพัฒนาที่รวดเร็วและยั่งยืน
หวังว่าหนังสือเล่มนี้จะสามารถช่วยคุณให้ไปถึงฝันได้อย่างรวดเร็ว ผมขอเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือพลักดันสินค้าและบริการไทยให้ก้าวไกลในประเทศจีนครับ
สารบัญ
บทที่ 1 การขึ้นครองอำนาจของประเทศจีน
บทที่ 2 บุกตลาดจีนอย่างไร?
บทที่ 3 รู้จักพฤติกรรมผู้บริโภคจีน
บทที่ 4 โอกาสธุรกิจไอทีในเมืองจีน
บทที่ 5 ขั้นตอนลงมือทำโซเชียลมีเดียจีน
บทที่ 6 ขั้นตอนลงมือหาพันธมิตรจีน
บทที่ 7 ก้าวเดินไปด้วยกัน