top of page

แนวคิดซิวเซิน การพัฒนาตนเองไม่หยุดยั้งของคนจีน

แม้ว่าสังคมจีนในหลายทศวรรษที่ผ่านมาจะถูกมองว่าได้สูญเสียวัฒนธรรมเก่าแก่ที่เป็นอัตลักษณ์หลายอย่างจากโลกอดีต โดยเฉพาะการเผาทำลายครั้งใหญ่ในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรมที่ทำให้ลัทธิหยูของขงจื่อแทบจะสิ้นสลายไป ทั้งที่เคยฝังรากอยู่ในสังคมจีนมายาวนาน แต่ก็มีแนวคิดบางอย่างที่ยังคงสืบทอดต่อกันมาในครอบครัวครจีน เช่น แนวคิดซิวเซิน (Xiushen) หรือก็คือ การพัฒนาตนเอง ซึ่งอยู่ในหลักของขงจื่อ โดยมีเป้าหมายคือพัฒนาให้ไปสู่ความเป็น วิญญูชน หรือ จวินจื่อ แล้วหนึ่งในกระบวนการสำคัญก็คือ การศึกษา แม้ว่าแนวคิดขงจื่อจะถูกทำลายไปมาก แต่แนวคิดซิวเซินกลับฝังรากในหมู่คนจีนแผ่นดินใหญ่อย่างแยกกันไม่ได้ เพราะมันคือสิ่งที่เป็นคำตอบในธรรมชาติของมนุษย์ และหากต้องการความสำเร็จ ก็ต้องพัฒนาตนเองในด้านต่างๆ ที่สำคัญคือ พรรคคอมมิวนิสต์เองก็ผลักดันนโยบายและโครงการหลายอย่างที่แยกออกจากกันไม่ได้กับแนวคิดนี้ อีกทั้งผลจากความสำเร็จของคนจีนในยุคนี้จำนวนมาก ก็กลายเป็นต้นแบบให้คนรุ่นใหม่ทำตาม แล้วพากันมองหาโอกาสที่จะพัฒนาตนเอง ทั้งความรู้ การศึกษา เพื่อสร้างโอกาสในธุรกิจ ที่เป็นเสมือนเวทีประลองพลัง บุคคลอย่างเช่น Jack Ma เจ้าของ Alibaba หรือ Ma Huateng เจ้าของ Tencent ได้กลายเป็นไอดอลและต้นแบบของคนรุ่นใหม่ ขณะที่คนอย่าง Wang Jiangling เจ้าพ่อ Real Estate ของจีน ก็เป็นตัวอย่างของการทำงานแบบยุคเก่า แนวคิดซิวเซินยังได้ฝังรากในคนจีนไต้หวันและคนจีนโพ้นทะเล โดยเฉพาะในแง่ของการรู้จักควบคุมตนเอง ไม่ใช่แต่ในแง่ของการทำงานหนักเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของความประพฤติ กริยามารยาท และการมีกาลเทศะในสถานการณ์ต่างๆ ที่ทำให้คนจีนไต้หวันยังสืบทอดวัฒนธรรมของจีนโบราณบางอย่างต่อมา ปัจจุบันจีนยุคใหม่ได้นำเอาขงจื่อที่เคยสิ้นซากไปแล้วกลับมาใช้ในแง่ของการศึกษา และประโยชน์ในการส่งออกทางวัฒนธรรม เช่นเรื่องภาษา และหลักปรัชญาต่างๆ ที่ถูกโปรโมทว่า สามารถนำมาใช้การได้กับโลกยุคใหม่ แนวคิดซิวเซินก็ยังคงอยู่กับคนจีนต่อไป แล้วคนไทยเองก็น่าจะที่เอาเป็นเยี่ยงอย่างในส่วนที่จะใช้ประโยชน์ได้เช่นกัน #คิดถึงการตลาดจีน คิดถึง Level Up Thailand#

แนวคิดซิวเซิน การพัฒนาตนเองไม่หยุดยั้งของคนจีน
bottom of page