top of page

รัฐบาลจีนกำลังเลิกหนุน แจ็ค หม่า จริงหรือไม่

นี่คือเรื่องที่แทบทุกฝ่ายจับตากันอย่างหนัก เพราะมันจะส่งผลสะเทือนต่อภาพรวมของธุรกิจในจีนอย่างมาก หลังจากรัฐบาลจีน นำโดย สี จิ้นผิง ได้ออกมาเบรกการระดมหุ้น IPO ของ เครืออาลีบาบา โดยบริษัท Ant Group ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นบริษัทการเงินที่ใหญ่ที่สุดของ แจ็ค หม่า หลายฝ่ายมองว่า หรือนี่จะหมดเวลาช่วงดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ระหว่างรัฐบาลจีนกับอาลีบาบาแล้ว หรืออาจจะเป็นมาตรการที่รัฐบาลจีนต้องการ “เชือดไก่ให้ลิงดู” หลังจากที่ แจ็ค หม่า ออกมาวิจารณ์เกี่ยวกับ ระบบการเงินและธนาคารของจีน ซึ่งดูเหมือนว่านี่จะเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้ สี จิ้นผิง สั่งเชือด แจ็ค หม่า ในครั้งนี้ แล้วล่าสุด ก็มีการสั่งตรวจสอบการทำธุรกรรมของอาลีบาบา ที่อาจจะเข้าข่าย การผูกขาดการธุรกิจ ซึ่งอาจจะนำไปสู่การเตรียมตัวถูกเชือดเพิ่มเติมขึ้นก็เป็นได้ อีกทั้งตัว แจ็ค หม่า ก็ถูกเรียกไปเข้าพบเพื่อตักเตือนในเรื่องนี้ด้วย ก่อนอื่นมาย้อนรอยเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นกันก่อนครับ เกี่ยวกับเรื่องราวที่ บริษัท Ant Group ถูกสั่งระงับ IPO ใหญ่สุดในโลก เดิมทีแล้ว นี่จะกลายเป็นดีลประวัติศาสตร์โลก เมื่อทาง Ant Group บริษัทการเงินในเครือ Alibaba Group ของ แจ็ค หม่า ได้เปิดซื้อขายหุ้น IPO ซึ่งจะกลายเป็นหุ้นมูลค่าซื้อขายใหญ่สุดในโลกแต่แล้ว ดีลนี้กลับถูกรัฐบาลจีนสั่งระงับเอาไว้ก่อนที่ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้จะเปิดทำการซื้อขายครั้งแรก เรื่องนี้ทำให้เป็นข่าวช็อคโลกสำหรับนักลงทุนมาก ในส่วนของที่มาของบริษัท Ant Group นั้น เดิมใช้ชื่อว่า Ant Financial ถูกตั้งขึ้นมาเป็นบริษัทด้านการเงินและอีคอมเมิร์ซในเครือของ Alibaba Group แล้วส่วนสำคัญที่สุดก็คือ มันเป็นบริษัทที่ครอบคลุมถึงส่วนของบริการแอปพลิเคชั่น Alipay กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่สุดของจีนในเวลานี้ด้วย โดยปัจจุบัน บริษัท Ant Group ยังได้ชื่อว่าเป็นบริษัท FinTech ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกด้วย ดังนั้นต้องกล่าวเลนว่า ความสำคัญของ Ant Group ไม่ใช่แค่บริษัทการเงินธรรมดา แต่บทบาทของมันคือ การเข้ามาทำหน้าที่เสมือนกับเป็นธนาคารหรือสถาบันการเงินเสียเอง ทั้งการทำธุรกรรมทางการเงิน การปล่อยสินเชื่อต่างๆ แล้วยังได้ชื่อว่าเป็นส่วนขยายอันดับต้นๆของอาณาจักร อาลีบาบา อีกด้วย สำหรับ บริษัทเครือ Alibaba ที่ก่อตั้งโดย แจ็ค หม่า ไม่ได้เป็นแค่บริษัทที่ให้บริการในด้านอีคอมเมิร์ซและไอทีเท่านั้น แต่ยังมีบริษัทในเครือมากมาย ทั้งที่เป็นบริษัทลูกในเครือของตนเอง และบริษัทที่เป็นร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ รวมถึงบริษัทที่พวกเขาไปซื้อเข้ามาในเครือตนเอง ทั้งหมดก็เพื่อการแข่งขันในตลาด แต่ในขณะเดียวกันก็ถูกหลายฝ่ายมองว่า มันคือการผูกขาดทางธุรกิจ แต่ที่ผ่านมา ดูเหมือนรัฐบาลจีนของ สี จิ้นผิง จะเลือก “ปิดตาหนึ่งข้าง” ในการผูกขาดในตลาดของอาลีบาบา เนื่องจากตัว แจ็ค หม่า ก็เป็นเสมือนนักธุรกิจที่ถูกรัฐบาลจีนผลักดันขึ้นมา และเขายังมีสายสัมพันธ์ หรือคอนเนคชั่นกับภายในพรรคคอมมิวนิสต์และรัฐบาลจีนอีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติของนักธุรกิจจีนที่ประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม ในระยะหลัง แจ็ค หม่า มีออกมาวิจารณ์เกี่ยวกับระบบการเงินในจีน ซึ่งนี่คือหนึ่งในเรื่องที่รัฐบาลจีน ไม่อาจยอมรับได้ แล้วก่อนหน้านี้ แจ็ค หม่า ก็ถูกเรียกตัวเข้าพบด่วนจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งทำให้ทางเครือ Ant Group ต้องแจ้งว่า ทางบริษัทจำเป็นต้องพบการเปลี่ยนแปลงทางด้านกฎเกณฑ์ในการกำกับดูแลที่อาจมีนัยยะสำคัญ ทำให้ดีลดังกล่าวไม่อาจลุล่วงลงได้นั่นเอง สำหรับประเด็นสำคัญคือ ทางหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน หน่วยงานกำกับดูแลด้านหลักทรัพย์ และสำนักงานดูแลเงินตราต่างประเทศได้เจรจาหารือกับทาง แจ็ค หม่า ว่าจะมีการจำกัดการทำธุรกิจและการเงินของ Ant Group ให้เติบโตช้าลง แต่เชื่อได้ว่า นี่ไม่ใช่แค่ขั้นแรกเท่านั้นที่จะเกิดขึ้น นอกจากนี้แล้ว ยังมีความน่าสนใจทางการเมืองและปัจจัยของสิ่งแวดล้อมต่อการทำธุรกิจในจีน ซึ่งงอาจเป็นการส่งสัญญาณเตือนอะไรบางอย่างให้กับภาคธุรกิจในจีนเกี่ยวกับการเปิดขายหุ้นที่จะทำให้ภายนอกเข้ามาถือหุ้นสำคัญของบริษัทขนาดใหญ่ระดับ Unicorn ในจีน ซึ่งทางอาลีบาบาถือว่าเป็นหัวแถวของจีนในหลายปีมานี้ และล่าสุดยังได้ชื่อว่าเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงอันดับต้นๆของโลกอีกด้วย แล้วอีกหนึ่งคำถามสำคัญคือ จะเกิดอะไรขึ้นกับ แจ็ค หม่า ในฐานะที่เขาเป็นเสมือน “ไอดอล” ของนักธุรกิจในจีน ซึ่งก็มีข้อน่าสังเกตว่า ถ้าหาก แจ็ค หม่า กำลังจะถูกสั่งเชือดในทางธุรกิจ หรือลดบทบาทลงจริงๆ ผู้ที่จะก้าวขึ้นมาเป็น “อันดับหนึ่ง” ในจีนแทน ย่อมไม่พ้น “หม่า ฮั่วเถิง” หรือ Pony Ma ผู้สร้างบริษัทเท็นเซ็นต์ Tencent บริษัทไอทียักษ์ใหญ่ของจีน และเป็นคู่แข่งอันดับหนึ่งของอาลีบาบาในหลายปีหลัง ที่สำคัญคือ บรรดาบริษัท Start Up ในจีนเวลานี้ กลุ่มท็อปที่ประสบความสำเร็จและมีมูลค่าสูงสุด อยู่ในเครือของ Tencent มากกว่า Alibaba ดังนั้นสิ่งหนึ่งที่นักธุรกิจจีน ในปัจจุบันและในอนาคต ควรต้องตระหนักก็คือ “ไม่มีใครใหญ่ไปกว่าพรรคคอมมิวนิสต์” แต่ในขณะเดียวกัน ทางพรรคก็ต้องการแสดงให้ชาวโลกเห็นว่า จีนยังคงเป็นประเทศที่ดีในการเริ่มลงทุนหรือทำธุรกิจด้วย ดังนั้นนี่จึงเป็นโจทย์ใหญ่ที่พรรคจะต้องหาทางจัดการกับ แจ็ค หม่า โดยไม่เสียภาพลักษณ์ในจุดนี้เกินไป ล่าสุด สี จิ้นผิง ก็ได้ออกมาสัมภาษณ์ถึง แจ็ค หม่า ว่า “เขาไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าก้อนเมฆ” แต่สื่อตะวันตกบางแห่งก็วิเคราะห์ว่า ศึกนี้ แจ็ค หม่า มีข้อได้เปรียบ ในแง่ที่ธุรกิจของพวกเขา สร้างโดยอยู่บนพื้นฐานของการใช้อินเทอร์เน็ต แล้วในเวลานี้ แพลทฟอร์มของ อาลีบาบา แทบจะแยกออกจากวิถีชีวิตคนจีนไม่ได้แล้วด้วย ซึ่งคงต้องรอดูกันต่อไปว่า จีนจะจัดการกับ แจ็ค หม่า ในรูปแบบใด ที่มา https://www.bloomberg.com/news/features/2020-12-22/jack-ma-s-empire-in-crisis-after-china-halts-ant-group-ipo

รัฐบาลจีนกำลังเลิกหนุน แจ็ค หม่า จริงหรือไม่
bottom of page