4 เทรนด์ใหม่ อีคอมเมิร์ซจีน ปี 2020 ก่อนบุกตลาดจีนควรรู้
4 เทรนด์ใหม่ อีคอมเมิร์ซจีน ปี 2020 ก่อนบุกตลาดจีนควรรู้ โดยเฉพาะเรื่องของการเลือกใช้ แพลทฟอร์มออนไลน์ ที่จะช่วยให้จับตลาดนักท่องเที่ยวจีนได้ แม้ว่าที่จริงบางเรื่องหลายคนก็อาจจะรู้อยู่แล้วหรือใช้งานในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว แต่จะนำมาทำให้เกิดรายได้หรือยอดขายบนช่องทางออนไลน์ได้อย่างไร แล้วจะจับตลาดนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาในประเทศไทยได้อย่างไร ลองมาดูกันครับ Alipay และ WeChatpay เมื่อแพลทฟอร์มคือหัวใจหลัก เรื่องการใช้แอปพลิเคชั่นหรือแพลทฟอร์มบนมือถือของคนจีนไม่ใช่เรื่องใหม่เลยในยุคนี้ แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่ต้องซ้ำอยู่เสมอ เพราะในภาพรวมแล้วผู้ประกอบการไทยยังใช้งานแพลทฟอร์มของจีนน้อยเกินไป มีข้อมูลจาก CIW ชี้ว่า แอบพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่นิยมใช้งานบนมือถือ ไม่ว่าจะเป็น WeChat Tencent Video QQ Music ทั้งหมดนี้ มีส่วนสำคัญในการช่วยดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคและผู้ซื้อได้มากถึง 50% ต่อวัน จากผู้บริโภคทั้งหมดในจีน แล้วที่สำคัญคือ 90% ของประชากรจีน นิยมชำระเงินทางออนไลน์ด้วยแอบพลิเคชั่นบนมือถือมากที่สุด สำหรับจำนวน User ที่เปิดบัญชีใช้งานทั้งหมดบน Alipay และ WeChatPay อยู่ที่ 700 ล้านคน และ 1,000 ล้านคน ตามลำดับ แล้วยังมีข้อมูลที่น่าสนใจคือ ในเมืองใหญ่อย่างเช่นเซี่ยงไฮ้ มีการใช้จ่ายเงินทางออนไลน์โดยเฉลี่ยต่อคนมากกว่า 150,000 หยวนต่อปี ในขณะที่มูลค่าการใช้จ่ายเงินทางออนไลน์ในจีนจากปี 2018 ที่ผ่านมา มีมูลค่าสูงถึง 7.18 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ถึงร้อยละ 32.2 แล้วยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในปีหน้าด้วย นอกจากนี้ การใช้ออนไลน์และออฟไลน์ผสมผสานกันก็มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากมีข้อมูลว่า คนจีนโดยเฉพาะวัยรุ่น ที่เลือกหาข้อมูลของสินค้ากลุ่มแบรนด์เนมและกลุ่มใกล้เคียงกัน จะนิยมค้นหาข้อมูลของสินค้า ความคุ้มค่า สเปก และราคา บนช่องทางออนไลน์ แต่เมื่อต้องการเลือกซื้อ พวกเขาจะไปซื้อกันที่หน้าร้านโดยตรงมากกว่า แล้วยังมีรายงานเพิ่มว่า กว่า 45% พวกเขาจะเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าจากต่างประเทศเป็นหลัก แสดงให้เห็นว่า ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ มีผลโดยตรงต่อการตัดสินใจเลือกซื้อนั่นเอง KOL มีผลต่อการทำตลาดในจีนมาก ในปัจจุบัน กลุ่มเซเล็บ นักแสดง ศิลปิน ดารา คนดัง มีส่วนช่วยทำการตลาด เพิ่มยอดขาดและสร้างรายได้กลับมาอย่างมาก ซึ่งพบว่ามีประมาณ 30 คน ที่ช่วยให้มีรายได้กลับมาเพิ่มราว 3.2% สำหรับกลุ่มสินค้า Luxury แต่ข้อควรระวังคือ มันไม่ได้การันตีว่า KOL จะช่วยให้ทำตลาดได้รุ่ง หรือเพิ่มยอดขายได้เสมอไป เพราะมีปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้อยู่มากเกินไป ตัวอย่างเช่น กลุ่มลูกค้า กระแสปากต่อปาก แล้วยังมีกรณีที่ต้องระวังหากมีการใช้เซเล็บและ KOL ทำตลาด แต่เกิดมีเหตุการณ์ดราม่าขึ้นมา เหมือนอย่างเหตุการณ์ของแบรนด์ Versace และ D&G ที่ส่งผลแง่ลบ ทำให้แบรนด์ถูกแบนจากคนจีนไปเลย โดยรวมแล้ว ปัจจัยต่าง ๆ ในการตัดสินใจบนออนไลน์ อยู่ที่หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น ภาพลักษณ์และชื่อเสียงของแบรนด์เหล่านั้น การดีไซน์สินค้า รูปแบบ สไตล์ ไปจนถึงการออกโปรโมชั่น การบอกต่อทางโซเชียล และยังรวมถึงเรื่องดราม่าที่อาจเป็นกระแสในเวลานั้น เป็นต้น S-Commerce การผสมผสานของโซเชียลและอีคอมเมิร์ซ นี่คืออีกหนึ่งรูปแบบใหม่สำหรับการทำตลาดออนไลน์ที่กำลังมาแรงมากครับ ที่สำคัญคือ หลายคนในยุคนี้ต่างก็ใช่เรื่องนี้กันเป็นปกติโดยไม่รู้ตัวอยู่แล้ว สำหรับ S-Commerce โยพื้นฐานแล้วมันคือการผสมผสานระหว่าง E-Commerce และ Social Media เข้าด้วยกัน ซึ่งก่อนหน้านี้มีการสำรวจพบว่า 11-12% ของสินค้าแบรนด์เนมในประเทศจีนจะสั่งซื้อผ่านช่องทางนี้ แม้ว่าตัวเลขยังไม่มากนัก แต่ด้วยการผสมผสานระหว่างข้อเด่นของแพลทฟอร์มออนไลน์กับโซเชียลมีเดียเข้าด้วยกัน ทำให้เป็นอีกรูปแบบที่ทุกแบรนด์หรือ SME ที่จะเข้ามาในตลาดจีน และช่องทางออนไลน์ต้องสนใจแล้วครับ ตัวอย่างเช่น ช่องทาง Xiaohongshu ที่ผสมผสานระหว่าง แพลทฟอร์มอีคอมเมิร์ซ กับ โซเชียลมีเดีย ที่ไม่ใช่เป็นแค่หน้าร้านอีคอมเมิร์ซทั่วไป แต่ยังใช้การเข้าถึงแบบโซเชียลมีเดีย ซึ่งรูปแบบนี้วัยรุ่นในจีนกำลังชอบมาก และมีแนวโน้มว่า มันอาจจะกลายเป็นกระแสหลักภายใน 2-3 ปีนี้ครับ รูปแบบ Content รูปแบบของเนื้อหา Content ที่จะเผยแพร่มีความสำคัญมากครับ ตัวอย่างเช่น การทำ Live หรือคลิปวีดีโอ มีส่วนช่วยมาก โดยปกติแล้ว เมื่อมีการสร้างสรรค์ Content ต่างๆ อีกส่วนประกอบหนึ่งก็คือการนำมาใช้ร่วมกับ KOL แต่ในการทำ Content บางประเภท KOL อาจจะไม่ได้ช่วยกระตุ้นการเข้าถึงเสมอไป แต่กลายเป็นว่ารูปแบบของ Content ที่ต้องการนำเสนอมีความสำคัญมากกว่า หนึง่ในรูปแบบที่สำคัญมากก็คือ การทำ Live ผ่านแพลทฟอร์มที่คนจีนนิยมใช้งาน เช่นใน Tiktok, Taobao Live, Kwai ซึ่งก็มีข้อมูลจาก CIW ชี้ว่า คนจีนโดยเฉลี่ยต่อวันที่เข้ามาดู Live Streaming ในประเทศจีน โดยเฉพาะในกลุ่ม Content ด้านบันเทิง จากเมื่อปลายปี 2018 สูงถึงราว 89 ล้านคนต่อวัน และต่อหนึ่งคนจะเข้ามาดูประมาณ 5 ครั้งต่อวัน ใช้เวลาประมาณเฉลี่ย 43.8 นาที ซึ่งมักมาจากเมืองในระดับ Tier-1 ของจีน เช่น กรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เซินเจิ้น ฯลฯ ดังนั้นสินค้าและบริการของเรา ถ้าสามารถทำให้มี Content ประเภทที่เน้นความบันเทิง สนุกสนาน ย่อมมีโอกาสมากกว่าครับ ========================================= #คิดถึงการตลาดจีน #คิดถึงการตลาดจีน คิดถึง Level Up Thailand# ต้องการตรวจความพร้อมก่อนบุกตลาดจีน สามารถอ่านบทความ “ตรวจความพร้อมก่อนไปตลาดจีน” ได้ที่ https://www.levelupthailand.com/single-post/chinamarketing-checklist-full หรือ อยากทราบภาพรวมของการตลาดออนไลน์จีนสามารถอ่านบทความ “บุกตลาดจีนด้วยการตลาดออนไลน์จีน” ได้ที่ https://www.levelupthailand.com/single-post/การตลาดออนไลน์จีน ต้องการคำปรึกษาหรือดูบริการแพ็คเกจบริการการตลาดจีนเริ่มต้นได้ที่ www.levelupthailand.com/sme2 ทั้งนี้ถ้าต้องการให้เราเขียนเพิ่มเติมด้านไหนสามารถ Comment มาได้เลยนะครับ