สหรัฐสั่งแบน ไชน่าเทเลคอม ข้อหาเป็นภัยต่อความมั่นคง

เป็นประเด็นใหญ่ที่อาจจะทำให้สถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกากลับมาเคร่งเครียดขึ้นอีกครั้ง หรืออย่างน้อยก็เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางการทูตและเศรษฐกิจที่ทั้งสองฝ่ายใช้ต่อกันในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของ สงครามการค้ายุคใหม่

สำหรับสถานการณ์นี้มีที่มาอยู่เหมือนกัน เนื่องจากทางการสหรัฐเพ่งเล็งบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนที่เข้ามาเปิดทำการในสหรัฐ โดยเฉพาะกลุ่มของไอทีและโทรคมนาคม ซึ่ง China Telecom ถือว่าเป็นบริษัทด้านการสื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่สุดของจีนที่เข้าไปดำเนินการในสหรัฐอเมริกามานานกว่า 20 ปี ในชื่อที่ว่า China Telecom America

แต่ล่าสุดทางการสหรัฐโดยคณะกรรมาธิการการสื่อสารกลาง (FCC- US Federal Communications Commission) ได้ออกแถลงเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการของไชน่า เทเลคอมแล้ว โดยให้เหตุผลหลักว่า เป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐ ซึ่งการเพิกถอนจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค. 2021

สำหรับข้อหาดังกล่าวมีที่มาจากการที่ว่าไชน่าเทเลคอมเป็นบริษัทที่อยู่ในเครือของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจจีน และมีการดำเนินการที่เอื้อต่อประโยชน์ของประเทศจีนเป็นหลัก ซึ่งถูกมองว่าจะส่งผลต่อความมั่นคงและความปลอดภัยด้านข้อมูลของผู้ใช้งานในสหรัฐอเมริกา ซึ่งในช่วงหลังมีความละเอียดอ่อนมากขึ้น สำหรับบริษัทและผู้ประกอบการที่เป็น Non-American

ทางด้านบริษัท ไชน่า เทเลคอม ก็ออกแถลงการณ์ตอบโต้ว่าพวกเขาผิดหวังมากต่อการตัดสินใจอครั้งนี้ของคณะกรรมาธิการการสื่อสารกลางสหรัฐ แต่พวกเขาก็จะไม่อยู่เฉยแล้วจะมองหาช่องว่างทางกฎหมายเพื่อสู้คดีและทำให้บริษัทสามารถกลับมาดำเนินการในสหรัฐต่อไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้

อย่างไรก็ตามทางด้านสถานเอกอัครราชทูตจีน ประจำกรุงวอชิงตัน และรัฐบาลจีนก็ยังไม่ได้ให้ความเห็นต่อกรณีนี้

ทางคณะกรรมาธิการการสื่อสารกลางสหรัฐยังเคยมีคำเตือนไปถึงบริษัทของจีนที่เข้าข่ายนี้รวมไชน่า เทเลคอม กับอีกสามบริษัทคือ ไชน่า ยูนิคอม แปซิฟิก เน็ตเวิร์กส์ และ คอมเน็ต ซึ่งคาดว่าพวกเขาจะทำการแบนทั้งหมดในเร็ววันนี้ด้วยข้อความเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐ

อนึ่ง... ข้อหาที่ว่ามาจากการที่บริษัทเหล่านี้ถูกมองว่าทำการสอดแนมข้อมูลผู้ใช้งานชาวสหรัฐ

ที่มา

http://www.scmp.com/.../us-federal-communications...