จับเทรนด์!! ผู้บริโภคจีนยุคใหม่ ทำไมต้องใช้การตลาดจีนบนออนไลน์

มาจับเทรนด์ รสนิยมของผู้บริโภคจีนยุคใหม่ ว่าทำไม การบุกตลาดจีน ในยุคนี้ถึงต้องใช้ช่องทางออนไลน์ และแพลทฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆเข้าช่วย

แต่ที่สำคัญคือ คนจีนใช้งานแพลทฟอร์มไม่เหมือนประเทศอื่นด้วย อีกทั้งรสนิยมการริโภคและการใช้งานก็ไม่เหมือนกันไปซะหมดอีก

ลองมาดูกันว่า ผู้บริโภคจีนยุคนี้ มีเทรนด์อะไรบ้างที่เราไม่ควรดตกขบวน

เทรนด์ใหม่ การตลาดจีน บนออนไลน์ China Marketing Online

มือถือเครื่องเดียว ทำได้ครบวงจร
 

โดยธรรมชาติของผู้บริโภคชาวจีนในเวลานี้ ขอแค่มีมือถือมาร์ทโฟนที่โหลดแอพต่างๆมาใช้งานเพียงเครื่องเดียว คนจีนก็สามารถใช้งานฟีเจอร์ที่จำเป็นได้แบบครบวงจรแล้วครับ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งซื้อของ การทำธุรกรรมออนไลน์ต่างๆ ไปจนถึงเรื่อง ธนาคาร โรงพยาบาล ค่าทางด่วน สุขภาพ

คนจีนยุคนี้ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น วัยกลางคน หรือวัยผู้ใหญ่ จะสะดวกสบายกับการมีมือถือเครื่องเดียวแล้วใช้บริการแบบครบวงจรได้ อีกทั้งพฤติกรรมการจ่ายเงินและช็อปปิ้งของคนจีน ก็กำลังมีแนวโน้มมาทางการชำระเงินทางออนไลน์โดยผ่านทางแอพบนมือถืออยู่แล้วด้วย

ที่สำคัญคือ ลดความยุ่งยากให้กับนักท่องเที่ยวจีนที่ออกไปต่างแดนด้วยครับ ไม่ต้องแลกเงินสด แต่จ่ายด้วยมือถือได้เลย

สำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซในจีนก็คือการทำให้รูปแบบชำระเงินและธุรกรรมต่าง ๆ ให้ขึ้นไปอยู่บนแพลตฟอร์มบนมือถือเป็นหลัก ภายใต้การใช้งานแบบครบวงจร หรือ One Platform

นี่จึงเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้คนจีนสามารถเดินทางไปทำธุรกรรมและเลือกซื้อสินค้าต่าง ๆ ได้ ขอเพียงมีมือถือเพียงเครื่องเดียวเท่านั้น

Baidu คือ Search Engine ที่สำคัญมากในตลาดจีน

สาเหตุหลักเพราะ ยุคนี้คนจีนฉลาดในการหาข้อมูลบนโลกอินเทอร์เน็ตกันมากขึ้น แล้วจะหาทางจากไหน นอกจากช่องทางโซเชียลมีเดียที่มักช่วยเพิ่มกระแสปากต่อปากหรือทำให้ติดเทรนด์ได้แล้ว อีกช่องทางที่คนจำนวนมากมองข้ามไปก็คือการทำ SEO ครับ

โดยเฉพาะ Search Engine ชื่อดังของจีน คือ Baidu ซึ่งเปรียบได้กับ Google ของคนจีนเลยก็ว่าได้

ทุกวันนี้ เมื่อคนจีนต้องการหาข้อมูลของสินค้าและบริการหรือยี่ห้อแบรนด์เนมต่างๆ ก็จะใช้แพลทฟอร์มที่เกี่ยวข้อง เช่น Baidu ในการค้นหา แต่ตอนซื้อ พวกเขาก็ยังมีช่องทางเลือกอื่นๆเช่นไปซื้อที่หน้าร้าน หลังจากหาข้อมูลบนออนไลน์มากพอแล้ว ยกเว้นสินค้าบางกลุ่มที่นิยมสั่งซื้อออนไลน์เลย

ตัวอย่างเช่น สินค้ากลุ่มแบรนด์เนมหรู หรือกลุ่มสินค้าประเภท Luxury ถือว่าเป็นกลุ่มที่กำลังมาแรงมากในประเทศจีน ซึ่งพบว่าพฤติกรรมของคนจีนวัยหนุ่มสาวมักหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตเพื่อใช้เป็นแนวทางสำคัญในการเลือกซื้อสินค้าเช่น ยี่ห้อ ราคา รูปลักษณ์ โปรโมชั่น การบอกต่อ เป็นต้น

แต่เมื่อจะต้องตัดสินใจเลือกซื้อ ปรากฏว่าคนจีนจะริยมไปซื้อร้านของแบรนด์เหล่านั้นในห้างสรรพสินค้าหลังจากค้นหาข้อมูลทางออนไลน์แล้วมากกว่า

แล้วยังมีข้อมูลชี้ว่า ผู้บริโภคชาวจีนมากกว่า 45% จะไปเลือกซื้อสินค้าจากร้านค้าของแบรนด์ดังในต่างประเทศมากกว่า เพราะให้ความน่าเชื่อถือ

คลิปวีดีโอ และ Live Stream

ปัจจุบัน ผู้ให้บริการรายใหญ่สำหรับเว็บอีคอมเมิร์ซจีน เช่น Alibaba และ JD.com ก็กำลังแข่งขันกันผลิต Content เป็นคลิปวีดีโอผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ มากกว่า 10 ช่องทางเป็นอย่างต่ำ โดยเฉพาะเว็บไซต์เจ้าใหญ่อย่าง Taobao และ Tmall มีการผลิตคลิปวีดีโอที่มีจำนวนผู้เข้าชมรวมแล้วมากกว่า 100 ล้านครั้งเลยทีเดียว

เนื่องจากมีรายงานของ CIW ระบุว่า รูปแบบการทำตลาดด้วยคลิปวีดีโอออนไลน์ การทำ Live สด มีการเพิ่มขึ้นมาก รวมถึงแพลตฟอร์มหลายช่องทางก็ทำให้รูปแบบการทำโฆษณาเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน

ด้านมูลค่าของการทำโฆษณาด้วยวีดีโอออนไลน์ มีมูลค่าขึ้นไปแตะถึง 4.59 หมื่นล้านหยวน ถือว่าเป็นรูปแบบที่มาแรงที่สุดในเวลานี้

สำหรับในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา การทำ Live กลายเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ ที่มาแรงสุดๆ และเป็นทางออกของการขายสินค้าและรีวิวสินค้าผ่านออนไลน์ เพราะการแข่งขันที่สูงมากขึ้น ดังนั้นการทำ Live จึงช่วยเรียกความสนใจได้ดี โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มที่เกี่ยวข้องกับความงาม เครื่องสำอาง สุขภาพ เป็นต้น

เนตไอดอล และ Influencer ยังสำคัญในจีน

เนตไอดอล จับว่าเป็นกลุ่มคนที่มีอิทธิพลด้านการตลาดในจีนโดยเฉพาะทางออนไลน์อยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นการทำ Content บนช่องทางโซเชียลมีเดีย และการทำ Live ที่สำคัญคือ พวกเขายังเป็นกลุ่มคนที่ฐานแฟนคลับเชื่อถืออยู่

นอกจากนี้ เนตไอดอลยังสามารถสร้างความบันเทิง การทำเอ็นเตอร์เท็นเอาใจฐานแฟนคลับที่ติดตามอยู่ก็ได้ โดยเฉพาะการแชทคุย ร้องเพลง เต้น หรืออื่น ๆ ซึ่งได้กลายเป็นช่องทางนำเสนอหลักของนักโซเชียลเหล่านี้ได้

แล้วยังมีสถิติว่า ยอดคนที่เข้ามาดูคลิป Live โดยเฉพาะสัดส่วนของการนำเสนอด้านบันเทิงและกลุ่ม Content ประเภท Entertainment มีสูงถึงกว่า 89 ล้านคนต่อวัน แล้วโดยเฉลี่ย ต่อหนึ่งคนจะเข้ามาดูประมาณ 5 ครั้งต่อวัน ใช้เวลาประมาณเฉลี่ย 43.8 นาที โดยเพศชายเข้ามามากที่สุด ที่สำคัญคือ พวกที่เข้ามามักมีกำลังจ่ายสูง โดยมักจะมาจากเมืองในระดับ Tier-1 ของจีน เช่น กรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เซินเจิ้น เป็นต้น

ดังนั้นนี่จึงกลายเป็นพื้นที่สำคัญที่ทำให้ทุกยี่ห้อที่จะเจาะตลาดจีน โดยเฉพาะทางออนไลน์ต้องการใช้บริการของเนตไอดอลเหล่านี้เข้ามาช่วยในการเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าและรีวิวสินค้า ในรูปแบบของ Blogger รวมถึงการทำคลิปวีดีโอและ Live ผ่านสตรีมมิ่งช่องทางต่าง ๆ ตามที่แต่ละคนมีแฟนคลับหรือแต่ละคนถนัดนั่นเอง
 

การเป็นสังคมไร้เงินสด

จีนกำลังเข้าสู่สังคมไร้เงินสดมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะการมาของ Hema Supermarket ห้างสพรรสินค้าสำหรับของสด ที่ให้บริการแบบไร้เงินสด ซึ่งเป็นบริการที่อยู่ในเครือของ Alibaba

การให้บริการนั้น ลูกค้าสามารถเข้าไปเลือกสั่งอาหารสด อาหารทะเล และของต่าง ๆ จากในซุปเปอร์ โดยที่ไม่ต้องพกเงินสดติดตัว แล้วยังมีบริการส่งอาหารสดให้สำหรับใกล้บ้านอีกด้วย ขอเพียงมี Alipay อยู่ในมือถือเท่านั้นก็สามารถจัดการทุกอย่างได้แล้วนั่นเอง

สำหรับในส่วนของ WeChat Pay ก็จะมีการเปิดให้บริการสำหรับลูกค้าที่เข้าไปจ่ายเงินซื้อของใน Supermarket ที่มหานครเซี่ยงไฮ้ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาระบบการสแกน โดยที่ไม่ต้องเอามือถือขึ้นมาสแกนได้ด้วยซ้ำ

เทรนด์เหล่านี้ เกี่ยวข้องพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคชาวจีน การตลาดจีน โดยเฉพาะช่วงโควิด-19 ซึ่งมีผลกับการบุกตลาดออนไลน์ในจีนโดยตรงครับ


 
=================================

#คิดถึงการตลาดจีน #คิดถึงLevelUpThailand

ต้องการตรวจความพร้อมก่อนบุกตลาดจีน สามารถอ่านบทความ “ตรวจความพร้อมก่อนไปตลาดจีน” ได้ที่

https://www.levelupthailand.com/single-post/chinamarketing-checklist-full

หรือ อยากทราบภาพรวมของการตลาดออนไลน์จีนสามารถอ่านบทความ

“บุกตลาดจีนด้วยการตลาดออนไลน์จีน” ได้ที่

https://www.levelupthailand.com/single-post/การตลาดออนไลน์จีน

ต้องการคำปรึกษาหรือดูบริการแพ็คเกจบริการการตลาดจีนเริ่มต้นได้ที่

www.levelupthailand.com/sme2

หรือติดต่อสอบถามได้ในเพจ

https://web.facebook.com/levelupchina

ทั้งนี้ถ้าต้องการให้เราเขียนเพิ่มเติมด้านไหนสามารถ Comment มาได้เลยนะครับ